วัดไทยพุทธคยาจัดรถรับส่งคณะแสวงบุญอินเดีย 342 รูป/คนกลับไทย

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 เพจวัดไทยพุทธคยา 935 งานเผยแผ่พระธรรมทูตอินเดีย-เนปาล ได้โพสต์ข้อความว่า ส่งรถบัสไปรับคนไทยทั่วสังเวชนียสถาน 7 คันทั่วเส้นทาง เพื่อพาคนไทยกลับบ้าน!!

วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย ได้รับการยืนยันการอนุมัติจากผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนของประเทศอินเดีย อนุญาตให้นำเครื่องบินจากประเทศไทยมารับชาวไทยตกค้างที่พุทธคยา ในวันที่ 24 และ 25 เมษายน นี้ได้

โดยงานนี้ทาง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตต้า ในนามของหน่วยงานภาครัฐของไทย เป็นผู้ช่วยประสานงานกับทางรัฐบาลของประเทศอินเดีย ซึ่งใช้ความพยายามในการดำเนินเรื่องอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนในที่สุดหน่วยงานภาครัฐฝ่ายสุดท้าย คือ สำนักงานการบินพลเรือนของอินเดีย #ก็มีคำสั่งอนุญาตให้เครื่องจากประเทศไทยบินมารับคนไทยกลับบ้านได้ เมื่อประมาณ 17.00 น. ของเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563

ดังนั้น จึงเป็นที่ยืนยันชัดเจนแล้วว่า วันที่ 24 และ 25 เมษายน 2563 คนไทย ทั้งพระสงฆ์ แม่ชี และฆราวาส ที่ตกค้างอยู่ในเส้นทางสังเวชนียสถาน จะได้เดินทางกลับบ้าน!! จำนวน 342 รูป/คน (ไฟท์ วันที่ 24 เม.ย. 171 รูป/คน และไฟท์ วันที่ 25 เม.ย. 171 รูป/คน)

วันนี้วัดไทยพุทธคยาโดยคำสั่งของพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิวงศ์ หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ได้จัดจ้างรถบัสท้องถิ่นของพุทธคยา จำนวน 7 คัน เพื่อให้วิ่งไปรับคนไทยในเขตสังเวชนียสถานและพุทธสถานทั้งหมดในอินเดีย (รัฐพิหาร และ รัฐอุตตรประเทศ)

บัสคันที่ 1 รับคนไทยจากวัดสิทธารถราชมณเฑียร (ใกล้เส้นชายแดนเมืองกบิลพัสดุ์ อินเดีย-เนปาล), วัดไทยเชตวันมหาวิหาร และคนไทยในเมืองสาวัตถี, เมืองสุลตาลปุระ, เมืองพาราณสี, เมืองสารนาถ และเมืองสะสาราม

บัสคันที่ 2 รับคนไทยจาก วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 (ชายแดนอินเดีย-เนปาล), เมืองกุสินารา, เมืองไวสาลี, เมืองปัตนะ, เมืองนาลันทา และเมืองราชคฤห์

บัสคันที่ 3 -7 รับคนไทยจาก วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ และ พื้นที่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งในจำนวนนี้ มีคณะพระธรรมยาตรา จำนวน 120 รูป/คน อยู่ด้วย

โดยรถบัสทุกคันได้รับอนุญาตจากทางภาครัฐของอินเดียเรียบร้อยแล้วในการออกเดินทางไปรับพระสงฆ์ แม่ชี และฆราวาสชาวไทยทั้งหมด เพราะในช่วงนี้ประเทศอินเดียยังคง Lock Down ประเทศ ไ่ม่อนุญาตให้เดินทางเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะการเดินทางข้ามรัฐโดยเด็ดขาด

Leave a Reply