ปลัดกฤษศญพงษ์ : ที่ผมรู้จัก

   โดย..เปรียญสิบ

            คุณกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนนี้ เป็นปลัดคนแรกที่ผมจะต้องเขียนถึงในชีวิตของการเป็นสื่อมวลชน

            ทั้ง ๆ ที่ในชีวิตจริงผมรู้จักปลัดตามกระทรวงต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 10 ราย ทั้งที่ยังรับราชการอยู่ เกษียณไปแล้ว หรือบางท่านลาจากโลกนี้ไปแล้วด้วยซ้ำไป

            เหตุผลที่ผมเขียนถึง  ปลัดกฤษศญพงษ์ ศิริ ไม่มีอะไรมากไปกว่า ในชีวิตรู้สึกภูมิใจที่ได้รู้จัก ข้าราชการแบบนี้ ส่วนอีกมุมหนึ่งคือ เสียดายที่วงการราชการ ที่ต้องเสียข้าราชการ ที่ซื่อสัตย์สุจริต ใช้ชีวิตสมถะ ยิ่งกว่าพระคุณเจ้าบางรูปด้วยซ้ำไปในวัย 60 ปี

            บุคลิกภาพของท่านมีความ อ่อนน้อม ถ่อมตน ซื่อสัตย์และ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีพ คล้ายกับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ที่ผมรู้จักและให้ความเคารพนับถือ

           ผมรู้จักกับ ปลัดกฤษศญพงษ์ ตั้งแต่เป็นรองอธิบดีกรมการศาสนา ยุคที่ยังผลิตรายการอยู่ที่ช่อง 11 บุคลิกของท่านคล้ายทิดสึกใหม่หรือพวกมหาที่เคยผ่านบวชเรียนมา

            เมื่อสิบปีที่แล้วบุคลิกภาพอย่างไร  ณ ปัจจุบันก็ไม่เหมือนแปลง

            มีเพียงแต่…ทรงผมเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลง..เป็นบุคคลเสมอต้นเสมอปลาย

         สิ้นเดือนนี้ท่านเกษียณราชการแล้ว…คนที่รับไม้ต่อจากท่านคือคุณยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร  คนนี้ก็รู้จักสมัยที่ทำอยู่รายการกรองสถานการณ์ประมาณปี 2547-2550  หากจำไม่เป็นผิดตอนนั้นเธอเป็นผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

            ผลงานของคุณกฤษศญพงษ์ ศิริ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ดำรงตำแหน่ง ผมคิดว่าสามารถตอบโจทย์ประเทศที่ มีศิลปวัฒธรรมที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลกได้อย่างไม่มีที่ติ ทั้งด้านการขับเคลื่อนวัฒนธรรม ศาสนา และศิลปะวัฒนธรรม รวมทั้งเรื่องความพอเพียงและจิตอาสา

            ส่วนหนึ่งที่ผลงานท่านเด่นชัดอาจเป็นเพราะได้รัฐมนตรีอย่าง คุณวีระ โรจน์พจนรัตน์ ที่มีไอเดียบรรเจิดและบ้างานตลอดเวลา  รวมทั้ง คุณอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีหนุ่มไฟแรงที่ขยันคิดโปรเจค แล้วขยันทำงานด้วย

 

            สิ้นเดือนกันยายนนี้ ปลัดกฤษศญพงษ์ ศิริ ต้องร่ำลาไปแล้ว..หวังว่าคนของกระทรวงวัฒนธรรม จะนำแบบอย่างจากท่าน ในความเป็นข้าราชการที่ดี มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและซื่อสัตย์ ซึ่งครองตน ครองธรรม แล้วครองใจประชาชนได้ นำไปเป็นแบบอย่างในการทำงานราชการ เพื่อให้กระทรวงวัฒนธรรม อยู่ในใจของประชาชนตลอดไป

            ยินดีต้อนรับสู่สังคมที่ไม่มีหัวโขน ต่อจากนี้คงเหลือเพียงบารมีและบุญที่สะสมเอาไว้..ส่วนอำนาจกองไว้ที่กระทรวงวัฒนธรรมนั่นแหละครับ..

           ************************

Leave a Reply