“เจ้าคุณประสาร” แจงเพิ่มงบฯบริการ “รถเมล์ – ถวายภัตตาหารเช้า-เพล” นิสิต “มจร” ทุกวัน

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2563 พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถเมล์บริการผู้บริหาร คณาจารย์และนิสิต มจร ว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เป็นห่วงและช่วยกันเสนอแนะเรื่องต่างๆของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเพื่อจะได้พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นสำหรับนิสิตรูปที่โพสต์เรื่องความแออัดของรถเมล์รับ-ส่ง พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ที่เสนอความคิดเห็นผ่านสื่อในเรื่องนี้

ทุกท่านล้วนปรารถนาอยากเห็นความเจริญรุ่งเรืองของมหาวิทยาลัยของเรา และก็เป็นสิทธิของท่านด้วยที่จะพูดจะแสดงออกและแม้ว่าบางครั้งบางคราการพูด การวิพากษ์และการแสดงออกอาจจะมองเห็นหรือมีมุมมองที่แตกต่างกันบ้างก็ตาม ยังขอยืนยันว่า มหาวิทยาลัยของเราบริหารงานด้วยความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล(อันดับที่ 6 ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ในเรื่องการบริหารแบบมีธรรมาภิบาล)

วันนี้มหาวิทยาลัยยินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกคน ทุกฝ่าย ความเห็นที่ต่างกันนั้นไม่เคยโกธรเคืองชิงชังหรือมองเห็นเป็นศรัตรู แต่นี่คือข้อมูลเพื่อการพัฒนาให้มหาวิทยาลัยให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไป มหาวิทยาลัยเองก็มีหน้าที่ที่จะให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ถูกก็ว่าใช่ ไม่ถูกก็แก้ใขชี้แจงกันไป มหาวิทยาลัยของเราวันนี้กำลังเดินหน้าเรื่องการจัดการศึกษาเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาระดับโลก ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ตั้งไว้ บัดนี้เราเดินทางมาไกลมากแล้ว ผมมั่นใจเช่นนั้น

ในด้านสวัสดิการของนิสิตนั้นเมื่อพระนิสิตมาศึกษาเล่าเรียนที่นี่เบื้องต้นเรามีรถรับ-ส่งเพื่ออำนวยความสะดวกทุกท่าน ทุกรูป มีการถวายภัตตาหารเช้า-เพล ที่หอฉันตลอดปี โดยพระนิสิตไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในเรื่องนี้ เวลานี้มหาวิทยาลัยต้องหางบประมาณที่ญาติโยมช่วยกันบริจาคเพื่อการสองอย่างนี้คือรถรับ-ส่ง และค่าภัตตาหารพระนิสิตในปีงบประมาณ 2563 หางบประมาณมาใช้จ่ายกว่า 14 ล้านบาท

งบประมาณจำนวนกว่า 14 ล้านบาทนี้มหาวิทยาลัยไม่ได้รับการจัดสรรงบฯจากที่ใดเลย ไม่มีเลย ต้องบอกบุญจากญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป ซึ่งในเวลานี้ญาติโยมก็ฝืดเคืองมากอยู่แล้วจากภาวะการระบาดของโควิด-19 และนี่มหาวิทยาลัยยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆที่มหาวิทยาลัยต้องแบกรับภาระอยู่ไม่ต่ำกว่าหลักหลาย 100 ล้านบาทต่อปีงบประมาณ นี่คือข้อเท็จจริง

“เมื่อมหาวิทยาลัยมีแนวปฎิบัติในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายบ้างเพื่อให้เหมาะสม สมดุล มหาวิทยาลัยอยู่ได้ เดินหน้าไปได้ แน่นอนว่าแนวทางนี้ย่อมอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้คนในองค์กรอยู่บ้าง ซึ่งก็เกิดขึ้นจริงแล้วในเวลานี้ แต่ก็จำเป็นจริงๆที่จะต้องทำ และก็ได้พยายามเลือกที่จะทำให้คนส่วนใหญ่ในองค์กรได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ คิด ทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่าในฝ่ายบริหาร และในเวลานี้ผู้บริหารก็เข้าใจ เห็นใจท่าน รู้ถึงความเจ็บความไม่สบายใจ แต่เราก็เลือกทางที่ประณีประนอมที่สุดแล้วเพราะจะเห็นได้ว่าทุกภาคส่วนที่ประกอบการกันอยู่ในเวลานี้ทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ก็ล้วนใช้แนวทางนี้ทั้งนั้นเพื่อรักษาองค์กรของเขาให้อยู่ได้ ซึ่งคนอาจจะมีเจ็บบ้าง
ในส่วนของมหาวิทยาลัยของเราก็หลีกหนีหรือหลบไม่พ้นเส้นทางนี้หรอกครับ จะทำไงได้เพราะเราจะต้องให้มหาวิทยาลัยเดินหน้าต่อไปได้ นี่คือข้อเท็จจริงที่อยากพูดกับทุกท่านในเวลานี้” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวและว่า

ขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยและเข้าใจ ช่วยกันครับมหาวิทยาลัยเป็นของพวกเราทุกคน

Leave a Reply