ผลงานชิ้นโบว์แดง กมธ.ศาสนาฯ เคลียร์ที่ดินสงฆ์บ้านหินดาด จบด้วยดีหลังยึดเยื้อกว่า 40 ปี

             วันนี้ (15 ธ.ค. 2563)  คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เข้าพบ  พระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดระนอง เจ้าอาวาสสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง หลังจากมาร่วมประชุมแสวงหาข้อเท็จจริง จากข้อร้องเรียนจากชาวบ้านหินดาด ที่ถกกันว่าเป็นที่ดิน น.ส.ล. หรือบัญชีหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ประเภทที่สาธารณประโยชน์  หลังเรียกร้องมาหลายหน่วยงานให้ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินได้อย่างถูกต้องเพื่อขอยกเป็นวัดและขอวิสุงคามสีมาต่อไป ยืดเยื้อมากว่า 40 ปี

                  นายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ได้กล่าวว่า “หลังจากเมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิการได้เชิญให้ทุกฝ่ายเข้าหาร่วมประชุมที่ที่พักสงฆ์บ้านหินดาด ต.ทรายแดง อ.เมืองระนอง จังหวัดระนอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดระนอง ที่ดินจังหวัดระนอง ทรัพยากรป่าชายเลนจังหวัดระนอง ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดระนอง เพื่อทางออกร่วมกัน หลังจากที่ดินของสำนักสงฆ์มีเรื่องค้างมากว่า 40 ปี จนไม่สามารถจัดตั้งเป็นวัดได้ ด้วยเข้าใจว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ น.ส.ล. แต่ได้ข้อสรุปล่าสุดว่า พื้นที่ดังกล่าวประกอบด้วย พื้นที่ของพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 พื้นที่ป่าชายเลน และพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ…”

             ส่วน พระระณังคมุนีวงศ์ เจ้าคณะจังหวัดระนอง กล่าวว่า จังหวัดระนองเป็นจังหวัดเล็ก ๆ และอยู่ห่างไกล โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่า ภูเขาและทะเล ทำให้ยากต่อการเข้าถึง ล่าสุดมีสำนักสงฆ์ที่ตกสำรวจที่ได้ยื่นต่อสำนักพุทธศาสนาเพิ่มเติมอีกกว่า 40 สำนักสงฆ์ และคาดว่าจะยังมีสำนักสงฆ์ที่ตกค้างอีกส่วนหนึ่ง จึงขอให้คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมหนึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประสานงาน เพราะเพียงพระสงฆ์ที่อยู่ห่างไกล บางสถานที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ บางสถานที่ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าเข้าถึง จึงยากที่พระที่อยู่ป่าจะสามารถสื่อสารกับภาครัฐได้ สำหรับกรณีวัดหินดาดตนขออนุโมทนา ที่คณะกรรมาธิการฯ เข้ามาช่วยเหลือและผลักดันให้เป็นวัดต่อไป

                 ทางด้าน นางพรเพ็ญ บุญศิริวัฒนกุล รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ กล่าวว่า จากที่มีชาวบ้านได้ร้องเรียนมาถึงตน จึงได้ประสานงานให้นำเรื่องร้องเรียนสู่คณะกรรมาธิการฯ และได้ข้อสรุปว่าควรมาแสวงหาข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อนำข้อมูลเข้าสู่คณะกรรมาธิการฯ และนำไปสู่การแก้ปัญหาให้กับประชาชนและคณะสงฆ์ในพื้นที่ จากข้อมูลดังกล่าวทำให้รู้ทิศทางที่ดำเนินการตามหลักกฎหมายได้อย่างถูกต้อง ตนต้องขอขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ ที่สละเวลาเข้ามาร่วมแสวงหาข้อเท็จจริง

                 ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ และขอผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 23 มิถุนายน 2563 นั้นได้มีมติให้พื้นที่สำนักสงฆ์ ที่อยู่ในเขตป่าไม้ ขอขึ้นทะเบียนโดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาเป็นผู้ขออนุญาต ผ่านกรมป่าไม้ ซึ่งจากกรณีของที่พักสงฆ์บ้านหินดาด จะเข้าเงื่อนไขในกรณีเป็นที่ป่าไม้ จึงได้ประสานให้สำนักพระพุทธศาสนาเป็นผู้ประสานไปยังสำนักงานป่าไม้จังหวัดระนอง ตนขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ให้ข้อกระจ่างแจ้งเพื่อให้สำนักสงฆ์ที่ยืดเยื้อกว่า 40 ปีได้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานะเป็นวัดในอนาคต

                จากการประชุม นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ถือเป็นการดีที่ได้ข้อสรุปจากทุกฝ่ายว่าด้วยพื้นที่เป็นพื้นที่ในการดูแลของกรมป่าไม้ และสอดรับกับ การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ และขอผ่อนผันตามมติคณะรัฐมนตรี ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 นี้ และจะต้องใช้เงินในการชดเชยในการใช้พื้นที่ป่า ประมาณ 1.3 แสนบาท ซึ่งทางวัดจะจัดตั้งเป็นผ้าป่าเพื่อรวบรวมเงินมาชดเชยการใช้พื้นที่ป่าจำนวน 15 ไร่ ต่อไป

             ในขณะเดียวกัน  ดร.ณพลเดช มณีลังกา อนุกรรมาธิการศึกษาพิจารณาพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ กล่าวว่า ได้มีการร้องเรียนเพิ่มเติมเรื่องพื้นที่ของสำนักสงฆ์มัชฌิมเจริญธรรม ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เป็นกรณีพื้นที่ น.ส.ล. โดย นายนิตย์ อุ่ยเต็งเค่ง ได้ร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการฯ ว่า  สำนักสงฆ์มัชฌิมเจริญธรรม หรือชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า “วัดมัชฌิมเจริญธรรม” นั้นได้ก่อตั้งมากว่า 60 ปี แต่มีข้อถกเถียงว่าเป็นพื้นที่ น.ส.ล. จึงไม่สามารถจัดตั้งเป็นวัดได้อย่างถูกต้อง ตนจึงขอให้คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและผลักดันให้เป็นสถานะวัดอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นความหวังของชาวบ้านอย่างมาก เพราะจะเป็นสถานที่ที่ปลูกฝังอบรมจิตใจ เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ให้กับคนในพื้นที่ได้…

Leave a Reply