กมธ.ศาสนาสภาฯจี้สปถ.(เดิม)คืนที่ดิน สร้างวัดบ้านวังตวงจอมทอง

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 2564 นายนพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังท้องถิ่นไท และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการให้เผยแพร่มติที่ประชุมกรรรมาธิการ ครั้งที่ 36 วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2564 ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สผ.) 404 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา เรื่องการขอให้พิจารณาการขอยกฐานะที่พักสงฆ์บ้านวังตวงให้ตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายจันสอน ขัดสีแสง ได้ส่งหนังสือเพื่อขอให้คณะกรรมาธิการพิจารณาเรื่องการขอยกฐานะที่พักสงฆ์บ้านวัดตวง ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้ตั้งเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยอ้างว่าที่พักสงฆ์บ้านวังตวง ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนบ้านวังตวงที่ถูกยุบเลิกไปแล้วขณะนี้มีปัญหาติดขัดในเรื่องที่ดินซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ

ในการนี้คณะกรรมาธิการมอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา ด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ๆ รับเรื่องดังกล่าวเพื่อพิจารณาศึกษาต่อไป นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม ได้ให้ข้อมูล ต่อที่ประชุมว่า เรื่องดังกล่าวนี้อยู่ในเขตราชพัสดุ อยู่ในอำนาจหน้าที่ของอธิบดีกรมธนารักษ์

ว่าที่ร้อยตรี สิริชัย ตุลยสุข ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปะ และวัฒนธรรม สภาฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ประสานงานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาเชียงใหม่ที่ได้ประสานงานกับธนารักษ์แล้วผลปรากฎว่า 1. สปถ. (เดิม) ยังดำเนินการส่งคืนที่ไม่แล้วเสร็จ 2. มีการรื้อถอนอาคาร แต่ไม่ได้แจ้งธนารักษ์

โดยล่าสุด ธนารักษ์จะติดตามให้ สพป.ชม.1 (สปถ.เดิม) ส่งคืนที่ก่อนเมื่อแล้วเสร็จ จะดำเนินการขอใช้ที่เพื่อสร้างวัดต่อไป ซึ่งจากที่ตนศึกษาข้อกฎหมาย ระเบียบราชการ ข้อบังคับ คู่มือ การใช้ที่ราชพัสดุจะมีเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในการขอใช้ที่ราชพัสดุผู้มีสิทธิขอใช้ที่ราชพัสดุ คือ กระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรอื่นของรัฐ ที่ขอใช้ที่ราชพัสดุตามกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บำรุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ พ.ศ.2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงฯ (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ.2549

“สำหรับเงื่อนไขการใช้ที่ราชพัสดุ ประกอบด้วย (ข้อ) 1. ต้องเข้าทำประโยชน์ในที่ราชพัสดุตามวัตถุประสงค์ที่ขออนุญาตภายในกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต (ข้อ) 4 เมื่อมีความประสงค์จะเปลี่ยนการใช้ที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์ในทางราชการอย่างอื่น แตกต่างไปจากที่ได้รับอนุญาตไว้เดิม จะต้องทำความตกลงกับกรมธนารักษ์หรือผู้ว่าราชการ จังหวัดก่อนแล้วแต่กรณี (ข้อ) 19 ผู้ใช้ที่ราชพัสดุที่มีสถานะเป็นองค์กรอื่นของรัฐ จะต้องส่งรายงานผลประกอบการ แต่ละปี ที่ผ่านการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบบัญชีอนุญาตแล้วให้กรมธนารักษ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ผ่านการตรวจสอบ” ว่าที่ร้อยตรีสิริชัย กล่าว

Leave a Reply