รัฐประหารเมียนมา : พระสงฆ์คิดอย่างไรต่อการปราบปรามผู้ประท้วงที่รุนแรงของกองทัพ

พุทธศาสนาถือเป็นหนึ่งในสถาบันหลักของสังคมเมียนมา และพระสงฆ์ก็มีบทบาทสำคัญในแวดวงการเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบัน

ในการประท้วงต่อต้านรัฐประหารครั้งล่าสุดนี้มีพระสงฆ์เข้าร่วมในการชุมนุมด้วย ขณะเดียวกันก็มีพระสงฆ์อีกส่วนที่สนับสนุนกองทัพ บีบีซีได้สนทนากับพระสองรูปถึงทัศนะต่อวิกฤตทางการเมืองที่เมียนมากำลังเผชิญ การที่กองทัพใช้กำลังรุนปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง และหนทางไปสู่สันติภาพในประเทศ

พระ อู ปา หมอก ขะ เจ้าอาวาสวัดมะเกว บอกว่า ที่ผ่านมา พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เรียกร้องประธานาธิบดี และนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ตลอดจนคณะกรรมการการเลือกตั้งให้แก้ปัญหาไม่ชอบมาพากลของผลการเลือกตั้ง แต่คำขอดังกล่าวถูกปฏิเสธ

“ผู้นำพลเรือนพยายามผลักดันการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่” เขากล่าว

ขณะที่พระ อู ซันดาร์ ตีริ บอกว่า “กองทัพมีผลประโยชน์ทางเศรฐกิจอยู่มหาศาล พวกเขาจำเป็นต้องอยู่ในอำนาจเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงใช้เรื่องการโกงเลือกตั้งเป็นข้ออ้างก่อรัฐประหาร แม้มันจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ตาม”

เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงนั้น พระ อู ปา หมอก ขะ บอกว่า “กองทัพประกาศใช้กฎหมายต่อประชาชน…ขณะที่ผู้ประท้วงปิดถนนขว้างปาก้อนหินและใช้หนังสติ๊ก”

พระรูปนี้มองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่รัฐประหาร แต่เป็นการดึงอำนาจกลับจากรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรม โดยชี้ว่ากองทัพให้คำมั่นจะคืนอำนาจให้แก่ประชาชน

“จะมีการจัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่มีหลายพรรคลงแข่งขันขึ้นภายใน 1 ปี จากนั้นพวกเขา (กองทัพ) จะส่งอำนาจคืนให้พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้ง ดังนั้นมันจึงไม่ใช่การทำรัฐประหาร แต่เป็นการเข้าควบคุมอำนาจและอาตมาสนับสนุนเรื่องนี้” พระ อู ปา หมอก ขะ กล่าว

แต่พระ อู ซันดาร์ ตีริ กลับเห็นว่า เจ้าหน้าที่ใช้กำลังข่มเหงประชาชนอย่างโหดร้าย “พวกเขายิง จับกุม ทุบตี และฆ่าผู้ประท้วงด้วยความโหดเหี้ยม”

“กองทัพไม่ทำตามคำสั่งของรัฐบาลพลเรือน ดังนั้นพวกเขาถึงได้ข่มเหงประชาชน”

ส่วนเรื่องทางออกของวิกฤตครั้งนี้ พระ อู ปา หมอก ขะ บอกว่า “เราต้องรอดูกันอีก 1 ปี ตามที่กองทัพพูด แล้วเราก็จะได้คำตอบ”

แต่ พระ อู ซันดาร์ ตีริ ชี้ว่า “ประชาชนต้องต่อสู้กับเผด็จการทหารต่อไป ด้วยการขัดขืนของมวลชนในรูปแบบต่าง ๆ ตอนนั้นเองประชาชนจะประสบความสำเร็จอย่างที่พวกเขาต้องการ”

สถานการณ์ไม่สงบทางการเมืองในเมียนมาที่ดำเนินมากว่า 2 เดือน กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่างเดินหน้าใช้ความรุนแรงปราบปรามชาวบ้านที่ออกมาแสดงพลังต่อต้านการทำรัฐประหารของกองทัพอย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. มีประชาชนหลายพันคนถูกจับกุม และมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 520 คน ขณะที่เมื่อกลางเดือน มี.ค. คณะกรรมการสังฆมหานายก หรือมหาเถรสมาคมของเมียนมา ได้เผยแพร่ร่างแถลงการณ์ ประณามรัฐบาลทหารที่ใช้กำลังสลายการชุมนุม พร้อมกับเรียกร้องให้หยุดการใช้ความรุนแรงในทันที

 

อ้างอิง https://www.bbc.com/thai/i

Leave a Reply