เวทีสมัชชาธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ตกผนึกเดินหน้าสู่เป้าหมาย “พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข”

วันที่ 20 เม.ย. 66  วานนี้ ที่โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร คณะสงฆ์จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) และมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ( มมร ) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดเวทีสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการทบทวนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.2560 โดยมีผู้เข้าร่วมเวทีประกอบด้วยพระสงฆ์และผู้แทนจากหน่วยงานภาคีเข้าร่วมทั้งแบบ on-site และ online มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ (1)เพื่อสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจเนื้อหาสาระของธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ (2) เพื่อแสดงเจตนารมณ์ต่อการขับเคลื่อนฯ หลังจากที่มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งคณะสงฆ์และภาคีเครือข่ายทั้งระดับนโยบายและระดับพื้นที่ 5 เวที โดยเวทีเจ้าคณะภาคหรือผู้แทน จัดที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6 ประธานคณะทำงานวิชาการทบทวนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อ ปี พ.ศ. 2560 คณะสงฆ์ได้มีแผนปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา การจัดทำและขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่มหาเถรสมาคมได้มีมติเห็นชอบและให้อยู่ภายใต้ภารกิจของคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นประธาน ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ พ.ศ.2560 ฉบับแรกของประเทศบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นฟากฝั่งฆราวาสหรือองค์กรสงฆ์ต่างให้ความสำคัญและตื่นตัวกันเป็นอย่างมาก ต่างได้ช่วยกันขับเคลื่อนงานตามบทบาทและหน้าที่ของส่วนงาน ส่งผลให้การขับเคลื่อนมีความคืบหน้าตามลำดับ อาทิ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพระสงฆ์ พัฒนาพระคิลานุปัฎฐาก วัดส่งเสริมสุขภาพ ชุมชนคุณธรรมด้วยพลังบวร การสื่อสารเพื่อสุขภาพพระสงฆ์ การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ระดับพื้นที่ โดยมีตัวอย่างและต้นแบบที่ดีงามทั่วประเทศ เป็นต้น โดยที่ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์กำหนดให้มีการทบทวนทุกห้าปี มีขั้นตอนและกระบวนการทบทวนตั้งแต่การแต่งตั้งคณะทำงาน การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้มีการดำเนินการมาแล้วโดยลำดับ ในวันนี้เป็นเวทีสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการทบทวนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.2560 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้ทุกท่านได้ช่วยระดมความคิดเห็นต่อการหนุนเสริมการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ทั้งความสำคัญของธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพ ความสอดคล้องกับภารกิจขององค์กรของท่าน และบทบาทขององค์กรของท่านในการหนุนเสริม พระเทพเวทีกล่าว

ผศ.ดร.ทพ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการ สช. กล่าวว่า ความเป็นมาของการจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา จากฉันทมติ เรื่อง พระสงฆ์กับการพัฒนาสุขสุขภาวะ ปี 2555 มีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อมาโดยลำดับ จนมีการจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ การประกาศธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ และเจตนารมณ์ร่วมในการขับเคลื่อน โดยกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ โดยมีกรอบแนวคิดและกลไกสำคัญในการจัดทำธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 โดยยึดโยงกับกลไกการปกครองคณะสงฆ์ คือ มหาเถรสมาคม มีกรอบแนวคิดในการขับเคลื่อนภายใต้หลักการ “ทางธรรมนำทางโลก”

การดำเนินการที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดการพัฒนาระบบฐานข้อมูลพระสงฆ์ พัฒนาพระคิลานุปัฎฐาก วัดส่งเสริมสุขภาพ สังคมคุณธรรมด้วยพลังบวร การสื่อสารเพื่อสุขภาพพระสงฆ์ การขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ระดับพื้นที่ และการสร้างสุขภาวะพระภิกษุและสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาทั่วประเทศ การจัดเวทีสมัชชาสุขภาพในวันนี้ จึงถือเป็นเครื่องมือพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม เกิดขึ้นตามบทบัญญัติของ พรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 โดยมีกระบวนการสำคัญคือการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแบบสมานฉันท์จัดได้ทั้งระดับชาติ ระดับพื้นที่และเชิงประเด็น เวทีในวันนี้ได้นำเครื่องมือนี้มาจัดเป็นสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ มีการแต่งตั้งคณะทำงานวิชาการทบทวนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นมาก่อนหน้านี้ และเวทีสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นในวันนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างสุขภาวะองค์กรสงฆ์และชุมชนต่อไปผศ. วีระศักดิ์ พุทธาศรี กล่าว

พระมหาประยูร โชติวโร ผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต มจร คณะทำงานวิชาการทบทวนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ กล่าวว่า กระบวนการทบทวนและ (ร่าง) ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. …. มีที่มาจากที่ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. 2560 หมวดที่ 5 ข้อ 37 “…พึงจัดกระบวนการแบบมีส่วนร่วมเพื่อติดตามผลและทบทวนธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ พึงจัดให้มีการทบทวนธรรมนูญฉบับนี้ อย่างน้อยทุก 5 ปี” การสำคัญนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้มีการทบทวนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.2560 โดยมีการกำหนดทิศทางและกลไกการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติดังกล่าว สู่เป้าหมาย “พระแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุข”

หลังจากนั้น ผศ.ดร.ปฏิธรรม สำเนียง ได้ชี้แจงการแบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่มตามหมวดธรรมนูญฯ ในแต่ละกลุ่มมีพระสงฆ์เป็นที่ปรึกษาและคฤหัสถ์เป็นผู้ดำเนินรายการการประชุม กลุ่ม A มีดร.วิสุทธิ บุญญะโสภิต เป็นผู้ดำเนินราย และได้รับความเมตตาจากพระมงคลธรรมวิธาน เป็นที่ปรึกษากลุ่ม กลุ่ม B มีดร.บุญช่วย ดูใจ เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมีพระมงคลวชิรากร เป็นที่ปรึกษากลุ่ม และกลุ่ม C มีผศ.ดร.ปฏิธรรม สำเนียง เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีพระสุธีรัตนบัณฑิต เป็นที่ปรึกษากลุ่ม

การนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมแต่ละกลุ่มต่างได้ช่วยระดมความคิดเห็นต่อการหนุนเสริมการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ ใน 3 ประเด็นคือ (1) ความสำคัญของธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพ (2) ความสอดคล้องกับภารกิจขององค์กร (3) บทบาทขององค์กรของหน่วยงานต่าง ๆ ในการหนุนเสริมการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. …. ซึ่งผลจากการประชุมนอกจากจะสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจเนื้อหาสาระของธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. …. ต่อคณะสงฆ์ หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังส่งผลให้ผู้เข้าร่วมเวทีได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. ….ประการสำคัญที่ประชุมยังได้ช่วยให้ข้อคิดความเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งตามรายหมวดของธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ. …. ฉบับทบทวนนี้ โดยมีข้อเสนอแนะทั้งเชิงสาระและแนวทางการขับเคลื่อนกันอย่างคึกคัก หลังจากนี้ขั้นตอนและกระบวนการต่อไปจะได้นำเสนอร่างธรรมนูญฯฉบับนี้เสนอต่อมหาเถรสมาคมเพื่อให้ความเห็นชอบและประกาศใช้ต่อไป

Leave a Reply