คิดอย่างไร เขียนอย่างนั้น “วันวิสาขบูชาโลก”

การประชุมวันวิสาขนานาชาติระหว่างวันที่ 1 -2 มิถุนายน 2566 ในประเทศไทย ผ่านพ้นไปแล้ว ปีนี้มีประเทศเข้าร่วมทั้งสิ้น 65 ประเทศ จำนวนคนเข้าร่วม 3,500 รูปคน ถือว่าเป็นงานระดับชาติ

“เปรียญสิบ” ร่วมงานสำคัญระดับโลกแบบนี้มาหลายปีทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ปีนี้มีหลายเรื่องที่น่าประทับใจ เนื่องจากมีแขกสำคัญอย่างนายกรัฐมนตรีศรีลังกา รัฐมนตรีประเทศอินเดีย ประมุขสงฆ์ประเทศจีน มาร่วม อันนี้ไม่นับรวมประมุขสงฆ์ นักปราชญ์ชาวพุทธนานาชาติ อีกหลายประเทศ

คุยกับ “พระพรหมบัณฑิต” ท่านบอกว่า ไม่ได้จัดแบบนี้มา 3 ปี ปีนี้ผู้นำประเทศชาวพุทธ ประมุขสงฆ์หลายประเทศจึงให้ความสนใจอยากเดินทางมาร่วม รวมทั้งปีนี้แปลกมีภาพ ผู้นำศาสนาอิสลาม ผู้นำศาสนาคริสต์มาร่วมด้วย

“ปลัดเก่ง”  คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ  ปลัดกระทรวงมหาดไทย สมแล้วที่เป็น “ไวยาวัจกรวัดราชบพิธ” สมแล้วที่เป็น “ชาวพุทธต้นแบบ”  หลังแถลงข่าววันที่ 25 พฤษภาคม สังคมไทยจะเห็นว่า สื่อต่าง ๆ   พรึบ !!  ร่วมกันเสนอข่าว ป้ายโฆษณากลางแจ้งของบริษัท Plan B Media จำกัด ตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิ จนถึง มจร วังน้อย และตามแยกต่าง ๆ ใน กรุงเทพมหานคร “พรึบ” เสนอวีดีทัศน์และภาพนิ่งเกี่ยวกับงาน “วิสาขบูชาโลก”  โดยที่ “ผู้จัดงาน” คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย “ไม่ต้องเดือดร้อน” เงินสักบาทเดียว

ซ้ำตามถนนหนทางเส้นจังหวัดอยุธยา “พรึบ” ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่สองข้างทางมีป้ายกิจกรรม “งานวิสาขบูชาโลก”  ตลอดทาง มีธงชาติและธงธรรมจักร ติดไว้ดูแล้ว “ปลื้มใจ” แทนคณะสงฆ์และชาวพุทธในประเทศไทย

ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะน้ำใจของ “ปลัดเก่ง” คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ และอันนี้ต้องขอบคุณ คุณนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดอยุธยา อีกท่านที่เอาใจใส่งานสำคัญระดับโลกแบบนี้ ภายใต้การประสานงานของ “พี่เชิด”  คุณบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.พุทธศาสนาจังหวัดอยุธยา   ซึ่งชมผู้ว่าราชการจังหวัดว่า  “เต็มที่มาก”

วันงานที่ มจร เจอปลัดเก่ง เข้าไปทักคำแรกท่านบอกว่า “ มจร ไม่ได้เชิญพี่ แต่พี่มาเอง มาในฐานะมัคคาทายก คนวัด”  คิดในใจว่าคงจะมารอถวายการต้อนรับ “สมเด็จพระสังฆราช” ในฐานะไวยาวัจกรวัดราชบพิธ แต่มีคนมากระซิบว่า งานนี้ราบรื่นได้ เพราะมีการ “ลอบบี้” เกิดขึ้น จริงเท็จประการใดไม่ทราบ เพราะไม่ได้ถาม คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

วันที่สอง ที่สหประชาชาติ ผู้นำนานาชาติพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งพระภิกษุสงฆ์ฝ่ายเถรวาท มหายาน และผู้นำประเทศต่าง ๆ  อันมีนายกรัฐมนตรีประเทศศรีลังกาเป็นต้น เมื่อถึงเวลา พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดงานประชุม โดยมี ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงาน  ทุกอย่างก็ประมาณนี้ ดูแล้วราบรื่นเรียบร้อย รัฐบาล มหาเถรสมาคม ได้หน้าไปเต็ม  ๆ   ในขณะที่หลังเวที “พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส”   โปรดิวเซอร์ใหญ่จัดงานประชุมวิสาขบูชาโลกครั้งนี้  “วุ่นอยู่กับทีม”

แต่.. การจัดงานแบบนี้มักมีปัญหาให้แก้ เช่น วันแรก ที่ มจร ผู้บริหาร มจร หลายคน “ไม่มีที่นั่ง”  การนั่งแม้คนจะมาร่วม “เต็มห้อง” แต่การจัดระบบการนั่งปีนี้ “ดูแล้ว” ไม่ราบรื่น อันนี้ “ผู้รับผิดชอบ” ต้องแก้  และด้านนอกทุกปีจะมี “เครื่องดื่ม” คอยบริการ ปีนี้รู้สึกมี “เจ้าเดียว”  ไม่เพียงพอต่อแขกที่มาร่วมประชุม

ในขณะที่องค์การสหประชาชาติ “อาหาร” มีปัญหา มีหลายประเทศ ต้องฉัน “แฮมเบอร์เกอร์” เนื่องจากอาหารไม่เพียงพอ บางรูปฉันอาหารเจ จึงต้องอดอาหารไปโดยปริยาย

แม้แต่ “เปรียญสิบ” ก็ได้บัตรโรงอาหารรูด “สปาเกตตี” จานเดียวเงินในบัตรจำนวน 150 บาทหมดเกลี้ยง อดกินน้ำไปโดยปริยาย

อันนี้ “เขียนไว้” ให้รู้ว่า มีจุดบกพร่อง  ซึ่งความจริงอาจมีมากกว่านี้

สิ่งที่ “เปรียญสิบ” อยากเห็นการจัดงานวิสาขบูชานานาชาติ คือ อันดับแรก ก่อนงาน 3 เดือนต้องประชุมจับมือกับภาคดีเครือข่ายเช่นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรมซึ่งปีนี้กระทรวงวัฒนธรรมไม่มีผู้บริหารระดับสูงมาร่วมเลยทั้งวันแถลงข่าวและวันงาน รวมทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเหล่านี้ต้องให้เชิญชวนเชื่อมให้เขามาร่วมกับเราให้ได้  อันที่สอง เรื่องการจัดงาน อย่าเน้น “วิชาการ” อย่างเดียว อาจมีในเชิงวาไรตี้บ้างก็ได้ ซึ่งแบบนี้ กระทรวงวัฒนธรรม เขาถนัด หากดึงเขามาได้ รับรอง งานจะอลังการมากกว่านี้ ประเทศชาติจะได้ประโยชน์มากกว่านี้ อย่าจัดงาน “คิดแต่ตัวเอง” ได้อย่างเดียว..สังคมมันต้องได้ด้วย อันนี้แนะให้ไว้คิด ซึ่งปีหน้าทราบว่านายกรัฐมนตรีศรีลังกาขอให้ไปจัดที่ประเทศศรีลังกา และให้มาปิดงานประชุมที่ประเทศไทย

“เปรียญสิบ” หวังว่าปีหน้าการจัดงานประชุมวิสาขบูชานานาชาติ คงมีนานาชาติมาร่วมมากกว่านี้และอาจอลังการมากกว่านี้  ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นฝ่ายจัดงาน มจร – มมร ต้องทำงานเป็นทีม ในขณะที่รัฐบาลและมหาเถรสมาคม ต้องสนับสนุนอำนวยความสะดวกด้านงบประมาณ สรรพกำลังอื่น ๆ  ให้มากกว่านี้  และรวมทั้งการสร้างขวัญกำลังใจให้คนทำงานด้วย!!

……………………………..

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย…“เปรียญสิบ”: [email protected]

Leave a Reply