พระนักวิชาการชื่อดังโพสต์เจ็บ โต้  “พระสิ้นคิด”  การเนรคุณต่อพระไตรปิฏกก็คือเนรคุณต่อครู ต่อธรรมวินัยของครู

วันที่ 13 มิ.ย. 66  เฟชบุ๊ค Hansa Dhammahaso ซึ่งเป็นเฟชบุ๊คส่วนตัวของ พระครูปลัดปัญญาวรวัฒน์, ศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้โพสต์ตอบสังคมกรณี สังคมชาวพุทธได้แชร์คำพูดของ พระสิ้นคิด หรือ พระสินทรัพย์ จรณธมฺโม  ประธานที่พักสงฆ์ป่าบ่อน้ำพระอินทร์ ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พระชื่อดังในโซเชียล ที่ระบุว่า “ครูของเราคือพระพุทธเจ้านะ ไม่ใช่พระไตรปิฎก” ซึ่งในข้อความนั้นไม่ได้ระบุว่าพูดเมื่อไรและที่ไหน จริงหรือไม่  ดังมีความว่า

“เมื่อกาลล่วงไปแห่งเรา ธรรมและวินัยจะเป็นครูของเธอทั้งหลาย” ความในมหาปรินิพพานสูตร ธรรมวินัยที่เป็นครูถูกจารึกในคัมภีร์พระไตรปิฏก การเคารพต่อครูคือพระพุทธเจ้า ก็คือการแสดงความต่อพระธรรมวินัยตามที่ปรากฏในพระไตรปิฏก

การเคารพพระไตรปิฏกคือการเคารพสิ่งที่ครูได้นำเสนอเป็นลายแทงเพื่อปฏิบัติบูชาให้สามารถเข้าถึงมรรค ผล และนิพพาน  เนรคุณต่อพระไตรปิฏกก็คือเนรคุณต่อครู ต่อธรรมวินัยของครู

ครู ผู้เป็นศาสดา หรือพระพุทธเจ้า กับแหล่งสำหรับบรรจุธรรมวินัยที่เป็นสิ่งเปรียบเช่นกับศาสดา หรือพระพุทธเจ้าในฐานะที่เป็นรูปหรือสภาวะ เป็นสิ่งที่แยกไม่ออกกับพระไตรปิฏก เพราะเกี่ยวเนื่องถึงกันและกัน ฉะนั้น ปฏิเสธหรือไม่ยอมสิ่งหนึ่ง ก็หมายถึงการปฏิเสธและไม่ยอมรับสิ่งหนึ่งเช่นกัน

เมื่อธรรมวินัยอันเป็นคำสอนในพระไตรปิฏกไม่มี พระพุทธเจ้าหรือศาสดาก็ไม่มี เมื่อพระพุทธเจ้าหรือศาสดาไม่มี พระสงฆ์ ทั้งสมมติสงฆ์ และอริยสงฆ์จะมีได้อย่างไร???

สำหรับพระสินทรัพย์ จรณธมฺโม ก่อนหน้านี้มีชาวพุทธกลุ่มหนึ่งร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมไม่เหมาะสมของท่าน โดยอ้างว่า พระสิ้นคิด หรือ นายสินทรัพย์ สีรัง แห่งที่พักสงฆ์ป่าบ่อน้ำพระอินทร์ “มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมแก่สมณสารูป กล่าวคือ มีการไลฟ์สดเพื่อขอรับบริจาคเงินเป็นค่าบูชาธรรม โดยโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว การอ้างตนว่าเป็นพระอรหันต์ เส้นผมกลายเป็นพระธาตุ เป็นการอวดอุตริ การไลฟ์สดตำหนิผู้อื่นออกสื่อ การฟ้องร้องญาติโยมที่แจ้งเรื่องไม่ถูกต้อง การแสดงตัวเป็นผู้มีอิทธิพล” จนเจ้าคณะปกครองในพื้นที่ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ

“แหล่งข่าว” พระภิกษุรูปหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยกับ Thebuddh ว่า  “ตอนนี้เจ้าคณะปกครองในพื้นที่ไม่กล้าทำอะไร เพราะทางพระสิ้นคิดเอานักกฎหมายมา ทำแล้วกลัวผิดพลาด ความจริงเรื่องนี้มีคนไปถวายฏีกาต่อสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เนื่องจากพฤติกรรมของท่านหลายอย่างดูแล้วไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องวัด ความจริงเป็นแค่ที่พักสงฆ์ พระมีจำนวนนับร้อย บางรูป คนก็สงสัยว่ามีใบสุทธิสังกัดถูกต้องหรือไม่ ขอให้ตรวจสอบประมาณนี้ แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ตอนหลังมันบานปลาย..”

 

Leave a Reply