ใครคิดขึ้น?? วลีบนตาลปัตรงานศพ “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” แฝงปริศนาธรรมอะไร?? วันที่ 21 ก.ค. 65 เฟชบุ๊ค Apinyawat Phosan ได้ตอบคำถามที่มาของ วลีบนตาลปัตร 4 ด้ามเวลางานจัดศพที่ตั้งเรียงกันไปว่า “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” ใครเป็นคนคิดขึ้น และคำวลีดังกล่าวนี้หมายถึงความตายหรือคนตายเท่านั้นหรืออย่างไร ซึ่งมีคำเฉลยดังนี้ วลีว่า “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” ใครเป็นคนคิดขึ้น และมีความหมายว่าอย่างไร สวัสดีครับ อาจารย์ ไปงานศพจะพบคำวลีบนตาลปัตร 4 ด้ามตั้งเรียงกันไปว่า “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” อยากทราบว่า ใครเป็นคนคิดขึ้น และคำวลีดังกล่าวนี้หมายถึงความตายหรือคนตายเท่านั้นหรืออย่างไรครับ ขอบคุณ นับว่าช่างสังเกตและช่างคิดสงสัยนะครับ หลายคนเห็นคำวิลี 4 คำบนตาลปัตร 4 ด้ามก็สักแต่ว่าเห็น มิได้มีความคิดนึกสงสัยอะไรเลย คำถามที่สอบถามมานั้น ขอตอบแบบ “ถามมาตอบไป” โดยหยิบยกเอาบทความของผู้เขียนที่เคยโพสต์ในไทม์ไลน์ : Apinyawat Phosan จำนวน 2 บทความ คือ 1) “ที่มาของวลี ‘ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น'” โพสต์เมื่อวันมี่ 7 มีนาคม 2565 และ 2) “ธรรมะ (ปรัชญา) จากตาลปัตรในงานศพ” โพสต์เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 มายำใส่กัน พร้อมตัด-ปรับแต่งใหม่ให้เข้ากับประเด็นที่ถาม และใช้ “วิภัชชวาท” เป็นวิธีการตอบคำถามนะครับ ดังนี้ เพื่อน ๆ ชาวเฟซคงเคยไปร่วมงานศพแล้วฟังพระท่านสวดอภิธรรม ไม่ว่าจะเป็นงานศพที่จัดอยู่ที่วัดหรือจัดอยู่ที่บ้านคนตาย กันเป็นแน่ ถ้าคนที่เคยไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมศพนั้นๆ เป็นคนช่างสังเกตสักหน่อย ก็จะพบเห็นได้ว่า ที่บนอาสนสงฆ์ จะมีตาลปัตร 4 ด้ามตั้งเรียงกันไว้เป็นแถวเป็นแนว และตอนที่จะสวดพระอภิธรรม พระภิกษุสงฆ์ 4 รูปผู้ที่ได้รับนิมนต์มาสวดในงานนั้น ก็จะจับตาลปัตรรูปละด้ามขึ้นตั้งไว้ตรงหน้าของพงกท่าน ซึ่งตรงด้านหน้าของตาลปัตรแต่ละด้ามนั้นๆ นั่นแหละ ก็จะเขียนเป็นคำวลีเรียงกันไปตามลำดับที่อ่านได้ว่า “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” เพื่อสื่อเป็นนัยแห่งปริศนาธรรมสอน “คนเป็น” มิใช่สอน “คนตาย” ในแง่ว่า ความตายเป็นภาวะของการ “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” จึงอย่าได้ประมาทและมัวเมาในชีวิต อายุ และยศศักดิ์ของตนๆ กันนักเลย นี่เป็นความหมายของคำวลี 4 คำบนตาลปัตร 4 ด้ามในงานศพที่คนส่วนใหญ่คิดมองเห็นกันทั่วไป แต่กระนั้น “ที่มา” ของคำวลี 4 คำบนตาลปัตร 4 ด้ามในงานศพนั้น แม้จะมีคนสงสัย แต่ก็ยังไม่มีคำตอบเลย ผู้เขียนเองก็มีความสงสัยอยู่ เมื่อเขียนและปรับแก้หนังสือ “พระพุทธศาสนากับความตาย” ให้มีเนื้อหาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงทำการค้นคว้าหาข้อมูล ก็เผอิญว่าโชคดีได้พบเจอข้อมูลให้คลายความสงสัยได้ ดังผู้เขียนจะนำเสนอให้พอเป็นแนวทางศึกษา ดังนี้ คำวลีบนตาลปัตร 4 ด้ามในงานศพที่เห็นกันออกบ่อยๆ ในเกือบทุกงานศพก็ว่าได้นั้น ที่ว่า “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” นับว่ามีอายุอยู่ในเมืองไทย ประมาณได้ถึง 60 ปีทีเดียว โดยเกิดขึ้นราว ๆ ปี พ.ศ. 2500 กว่า ๆ ผู้ที่ให้กำเนิดถ้อยคำอันเป็นวลีบนตาลปัตร 4 ด้ามในงานศพดังกล่าว ก็ได้แก่ สมเด็จพระวันรัต (จับ ฐิตธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร ทั้งนี้ก็ด้วยว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นพระธรรมกถึกหรือนักเทศน์ที่มีผีปากกล้าและมีชื่อเสียมากในเมืองไทยช่วงหลังปี 2500 ครั้งหนึ่งท่านได้เทศน์และกล่าวถ้อยคำเป็นวลีที่คล้องจองกัน 4 คำนี้ขึ้นว่า “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” อันส่งผลทำให้ให้คนฟังจับใจ ประทับใจ และจดจำวลีทั้ง 4 คำเหล่านี้ขึ้นใจได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังเห็นว่า เป็นถ้อยคำเป็นวลีที่เหมาะควรจะนำไปใช้ในงานศพ จึงมีการนำถ้อยคำเป็นวลีทั้ง 4 คำดังกล่าวไปปักหรือแปะไว้บนตาลปัตรที่ใช้ในงานสวดพระอภิธรรมศพกันมาในอดีตหลังปี พ.ศ. 2500 จนเป็นที่นิยมใช้กันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากคำวลี 4 คำบนตาลปัตร 4 ด้ามที่ตั้งเรียงกันในงานสวดพระอภิธรรมศพ สื่อถึงความตายและคนตายว่า เป็นภาวะของการ “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่ หนีไม่พ้น” ดังที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังสื่อเป็น “ปริศนาธรรม” หรือ “รูปสัญญะ” เพื่อสอน “คนเป็น” ผู้ที่มาฟังสวดพระอภิธรรมในงานศพนั้นๆ ให้ได้คิดพิจารณาเห็นธรรมในเชิง “ความหมายสัญญะ” จากตาลปัตรแต่ละด้ามที่ตั้งเรียงกันไปด้วย : 1) “ไปไม่กลับ” เป็นปริศนาธรรมที่สื่อนัยได้ว่า “กาลเวลา” เป็นสิ่งที่ “ไปไม่กลับ” คือลงได้เคลื่อนผ่านไปแล้ว ก็จะเคลื่อนผ่านไปเลย ไม่สามารถเอาเวลาในอดีตที่ผ่านไปแล้วให้หวนกลับคืนมาอีกได้ บุคคลที่ตระหนักคิดในเวลาและวัยของตนได้แล้ว จึงไม่ควรประมาทในกาลเวลาที่ตนมีอยู่และไม่ประมาทในชีวิตและวัยที่กำลังเป็นไปอยู่ใน “แต่ละวัน สัปดาห์ เดือน ปี” ของตน ให้รีบเร่งขวนขวายทำความดีในแบบไม่ควรพลัดวันประกันพรุ่งเลย 2) “หลับไม่ตื่น” เป็นปริศนาธรรมที่สื่อนัยได้ว่า “ความคิดเห็นผิด” (มิจฉาทิฏฐิ) แบบเห็นว่า “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป” ถ้าใครมีอยู่ในความนึกคิดของตนแล้ว ปล่อยให้ความคิดเห็นผิดเช่นนี้มีอยู่ในจิตใจบุคคลต่อไป ผู้มีความเห็นผิดอย่างนี้ก็จะ “หลับไม่ตื่น” ขึ้นมาทำสิ่งที่ดี-งามหรือสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมได้ แต่ยิ่งจะจมปลักอยู่แต่ในความชั่ว-ร้ายของการทำทางกาย การพูดทางวาจา และการคิดนึกทางจิตใจยิ่งขึ้นไป ดังนั้น บุคคลจึงควรตั้งตัว-ตั้งจิตเอาไว้ใน “สัมมาทิฏฐิ” คือ “ความคิดเห็นถูกต้อง” ในแบบเห็นว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” จึงจะนับว่าดีและสร้างสรรค์ในชีวิตบุคคล 3) “ฟื้นไม่มี” เป็นปริศนาธรรมที่สื่อนัยได้ว่า “คนที่ตายจริง” ทำอย่างไรก็ “ฟืนไม่มี” หรือ “ฟื้นไม่ได้” คือเขาหรือเธอที่ตายจริงแล้วนั้นๆ จะมิอาจกลับฟื้นคืนชีพมาใหม่ได้อีกเลย ไม่ว่าจะทำอย่างไรกับเขาหรือเธอก็ตาม ตายก็คือตาย บุคคลจึงไม่ควรทุกข์-โศกเสียใจกับการตายหรือคนตายแล้วนั้นๆ ให้มากนัก แต่แนวทางที่จะดีมาก ก็คือควรศึกษาเรียนรู้จากการตายหรือความตายที่อยู่ตรงหน้านั้นๆ แล้วทำบุญ-สร้างกุศลให้เกิดมีขึ้นแก่ตนผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ให้มากๆ แต่ขณะเดียวก็ไม่ควรลืมที่จะทำทักษิณานุปทาน (การให้ทานตามส่งผลบุญ) ให้แก่ผู้ตายวายชนม์แล้วนั้นตามที่หลักศาสนาได้กำหนดเอาไว้ด้วย 4) “หนีไม่พ้น” เป็นปริศนาธรรมที่สื่อนัยได้ว่า “โลกธรรม” คือธรรมประจำโลกที่มีอยู่ใตแง่เป็นคู่ตรงข้ามกัน 8 ประการ ได้แก่ มีสุข – มีทุกข์, มีลาภ – เสื่อมลาภ, มียศ – เสื่อมยศ, และสรรเสริญ – นินทา เป็นธรรมที่บุคคลทุกคนในโลกนี้จะ “หนีไม่พ้น” คือจะต้องพานพบเจอในชีวิตของตนอย่างแน่นอน ถ้าเขาหรือเธอยังอยู่ในวิถีแห่งโลก ดังนั้น บุคคลจึงควรใส่ใจพิจารณาไว้เสมอๆ ว่า โลกธรรมเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอน มีภาวะเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ก็เพื่อมิให้ “มีสุข ดีใจ” หรือ “มีทุกข์โศก เสียใจ” จนเกินไป ในยามที่ตนต้องเป็นอยู่หรือเผชิญกับโลกธรรมที่กำลังเกิดขึ้นกับตนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง แต่ให้เป็นอยู่หรือเผชิญกับมันด้วยความไม่ประมาทและมีสติปัญญาตลอดเวลาในลักษณะ “สร้างสรรค์” ขณะเผชิญอยู่ในฝ่ายไม่ชอบ (อนิฏฐารมณ์) และในลักษณะ “ป้องกัน ระวัง” ขณะเป็นอยู่ในฝ่ายชอบ (อิฏฐารมณ์) เพื่อให้จำ “ความหมายเชิงสัญญะ” ของคำวลีว่า “ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น” บนตาลปัตร 4 ด้ามในงานศพได้ง่ายขึ้น ผู้เขียนขอแต่งเป็นบทกลอน อันสื่อสะท้อนถึงสารัตถะที่สื่อหมายได้ของคำปริศนาธรรม 4 คำนั้นเอาไว้ ดังนี้ กาลเวลาผ่านไปไม่หวนกลับ คนเห็นผิดจิตหลับไม่ยอมตื่น คนตายจริงบอกได้ไม่มีฟื้น หนีไม่พ้นสุข-โศกโลกธรรม เพื่อนๆ ชาวเฟซไปร่วมงานศพและฟังพระสวดพระอภิธรรมในงานศพ ได้เห็นตาลปัตร 4 ด้ามที่ตั้งเรียนรายตรงหน้าแล้ว เกิดการตระหนักคิด จนมีการน้อมนำเอาธรรมะ (ปรัชญา) จากตาลปัตร 4 ด้ามกลับมาปฏิบัติตาม “ความหมายสัญญะ” กันบ้างไหมละครับ จำนวนผู้ชม : 1,431 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author ประชุมพัฒนารูปแบบการดำเนินงานสถานศึกษาวิถีพุทธ อุทัย มณี ม.ค. 09, 2019 วันที่ 9 ม.ค.2562 พระราชวรเมธี,รศ.ดร.รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)… สังเวชนียสถานทำไม? ทำไม?ต้องสังเวชนียสถาน อุทัย มณี พ.ย. 26, 2019 พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษาและผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ… “สมเด็จธงชัย” ย้ำ “ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมสุจริต” อุทัย มณี ส.ค. 26, 2021 วันที่ 26 สิงหาคม 2564 วันนี้เป็นที่ 2 ในการสัมมนาบูรณาการการใช้หลักธรรมสร้างสังคมไม่ทนต่อการทุจริต… “IBSC มจร” เตรียมเปิดหลักสูตรไกล่เกลี่ยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนานาชาติภาคอินเตอร์ อุทัย มณี พ.ค. 09, 2022 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 พระปราโมทย์ วาทโกวิโท, ดร.โค้ชสันติ… (ชมคลิป) จีนพบ”เตียงหินอ่อนขาว” สลักภาพพุทธศิลป์ในสุสานคู่รัก 1,400 ปี อุทัย มณี ม.ค. 10, 2021 "เตียงหินอ่อนขาว" ในสุสานคู่รัก 1,400 ปี เผยพลวัตศาสนายุคจีนโบราณ และลัทธิความเชื่อจากเปอร์เชียที่เตียงหินอ่อนในสุสานโบราณของคู่สามี-ภรรยายุคราชวงศ์สุยเมื่อกว่า… กองทุนสื่อจับมือ “WBTV” ขับเคลื่อนงานพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ อุทัย มณี ธ.ค. 31, 2020 วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2563 สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม… วัดธรรมปัญญารามบางม่วง เชิญร่วมงานสมโภช 1 ทศวรรษพระไภษัชย์พุทธเจ้า อุทัย มณี ธ.ค. 26, 2018 วัดธรรมปัญญารามบางม่วง อ.สามพราน จ.นครปฐม กำหนดการสมโภช 1 ทศวรรษ… สมเด็จพระสังฆราชประทานพรสำหรับความสุขปีใหม่ 2563 อุทัย มณี ธ.ค. 25, 2019 วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช… เที่ยวชมงานสานรัก สานศาสตร์ ปรัชญาพอเพียง อุทัย มณี ก.พ. 02, 2019 เมื่อเวลา09.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 ที่พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติ… Related Articles From the same category “บิ๊กตู่” ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมสุโขทัย ถือเคล็ดไหว้ “หลวงพ่อสามพี่น้อง” วันที่ 26 ก.ย. 64 ที่วัดบ้านซ่าน ตำบลบ้านซ่าน อำเภอศรีสำโรง… สถาบันพัฒนาพระวิทยากรวัดสระเกศปลื้ม..นิด้าฯ เลือกหลักสูตรพระวิทยากรกระบวนธรรม จัดพิมพ์เป็นคู่มือนำร่อง วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔ พระมหา ดร.ขวัญชัย กิตฺติเมธี ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาพระวิทยากร… พระภิกษุติดคุก !! ขาดจากความเป็นพระจริงหรือ?? "..จากการที่ตนได้สอบถามสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ… คณะสงฆ์ราชบุรี “สร้างบ้านให้โยม” วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2567เวลา 08.30 น. พระปิฎกโกศล เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี… ฉายาพระภิกษุสงฆ์แห่งปี’63 (รีรัน) การตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี หรือ การตั้งฉายานักการเมืองประจำรัฐสภาหรือแม้กระทั้งวงการ…
Leave a Reply