ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกทลายผับเถื่อนกลางกรุง “ติดวัดดัง”

วันที่ 1 ก.ค. 66 นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า กรมการปกครอง ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนละแวกวัดสระบัวและวัดชำนิหัตถการ (วัดสามง่าม) ว่ามีร้านอาหารลักลอบเปิดผับบนอาคารชั้น 2 เสียงดังรบกวนถึงเช้า โดยตัวร้านมีลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนพระราม 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน ชั้นล่างเปิดให้บริการขายอาหารลาบเป็ด ด้านบนถูกดัดแปลงให้เป็นผับ มีทั้งที่เก็บเสียง เครื่องเสียง ไฟ แสงสี สำหรับ ผับ เทค และประชาชนผู้ร้องเรียนยังกังวลใจเพราะนักเที่ยวจะตีกันเป็นประจำ ซ้ำเกิดอุบัติเหตุรถชนกันตายหน้าร้านหลายครั้ง ล่าสุดนักเที่ยวตีกันในร้านแล้วออกมาแทงกันตายนอกร้าน

“จากข้อร้องเรียนดังกล่าว ทำให้เชื่อได้ว่า ร้านลาบเป็ดดังกล่าว กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดให้บริการถึงรุ่งเช้าของทุกคืน ตลอดจนมีคนต่างด้าวสัญชาติลาวจำนวนมาก เข้ามาใช้บริการ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทางร้านมีการจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย อีกทั้งทางร้านยังขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ตนจึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์  ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน บุกจับกุม สถานบันเทิงแอบแฝงและผิดกฎหมาย โดยก่อนเข้าจับกุม ได้ส่งพนักงานฝ่ายปกครองแฝงตัวเป็นสายลับ เข้าสืบสวนที่สถานบันเทิงดังกล่าวเป็นเวลาหลายครั้ง พบเป็นผับที่ไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ และเปิดให้บริการตลอดคืนจนถึงเวลาตี 5 ของทุกวัน ซึ่งเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยสายลับยังได้พบว่ามีนักเที่ยววันละสองร้อยกว่าคน ยืนดื่มกินเต้นไปตามจังหวะเสียงดนตรีและแสงสีภายในผับอย่างสนุกสนานในลักษณะมึนเมา พนักงานของร้านทั้งชั้นสอง (โซนผับ) และชั้นล่างเป็นพนักงานร้านเดียวกัน สวมเสื้อโปโลสีแดง สกรีนชื่อของร้านลาบเป็ด และร้านมีการ์ดคอยดูแลเป็นหูเป็นตา ทั้งชั้นล่างและชั้นบน” นายแมนรัตน์ฯ กล่าว

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง  กล่าวต่ออีกว่า กระทั่งเวลาตี 3 ของวันนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจึงเปิดปฏิบัติการจู่โจมผับลับลาบเป็ดเจ๊นิ่ม ยโส รองเมือง ทันที โดยเมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ พบเป็นห้องทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่น แสงไฟเลเซอร์วิบวับ พบนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างด้าว จำนวนกว่าสองร้อยคน กำลังมั่วสุ่มดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามัน พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับเกิดความโกลาหล นักเที่ยวพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมก็ได้ทำการปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหลบหนีออกไปได้

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง  กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบนักเที่ยวจำนวน 250 คน พบผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 25 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนสัญชาติลาว 21 คน และเป็นเยาวชนสัญชาติไทย 4 คน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุมยังพบว่า ทางร้านมีการจ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวผิดกฎหมาย จำนวน 7 คน จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้านและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด 1) เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 3) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และ 4) จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ดำเนินคดี

ด้านนายรณรงค์  ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า ทุกครั้งที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ไปตรวจจับสถานบันเทิงในที่ต่าง ๆ จะมีคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปีเสมอ  ซึ่งปฏิบัติการในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง “ลาบเป็ดยโส เจ๊นิ่ม รองเมือง” มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง และตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงศาสนสถาน จากนี้พนักงานฝ่ายปกครองจะได้เสนอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้อย่างถาวร ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558  และจะได้ประสานกับทางกรุงเทพมหานคร ให้ตรวจสอบการใช้อาคารผิดประเภทตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย จึงฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ควรประกอบธุรกิจด้วยความมีจิตสํานึกรับผิดชอบต่อสังคมและถูกต้องตามกฎหมาย

Leave a Reply