คดีฟอกเงินบัญชีม้า..อ้างรายได้มาจากขายพระเครื่อง ศาลตัดสินว่าอย่างไร??

ระยะหลัง ๆ มานี้ วิธีการโอนถ่ายเงินของ “กลุ่มมิจฉาชีพ” มีหลากหลายรูปแบบ วันก่อนฟังคำสัมภาษณ์ของ “ทนายอัจริยะ” กรณีวัดบางคลาน “ถอดรหัส” คำพูดตอนหนึ่งในคำสัมภาษณ์ว่า  “อย่านำวัดมาเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มทุนจีนเทา” ท่ามกลาง “ข่าวลือ” ว่ามี นักการเมืองใหญ่ผู้ใกล้ชิด “พระเถระ” รูปหนึ่ง เคยเจรจาต่อรองให้ “เจ้าคณะปกครอง” ปลดเจ้าอาวาสวัดบางคลานรูปปัจจุบันออกแล้วนำ “พระภิกษุ” อีกรูปหนึ่งมาดำรงตำแหน่งแทน และพระรูปดังกล่าว เป็น “นักสร้างวัตถุมงคล”  ฟังจากคำสัมภาษณ์ของทนายอัจริยะข้อมูลนี้น่าจะอยู่ในมือ “ทนาย” ท่านนี้แล้ว กรณีสร้างวัตถุมงคล จำหน่ายวัตถุมงคลแล้วกลายเป็น “ทุนจีนเทา”  มีข่าวบ่อยครั้ง เมื่อไม่นานมานี้มีวัดหนึ่งในจังหวัดชลบุรีก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

เวปไซต์ข่าว “thekey.news” ได้ลงประเด็นการฟองเงิน โดยจำเลยอ้างว่าเป็นการซื้อขายพระเครื่อง

ในบทความนี้มีหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ “Thebuddh” ขอลงข้อมูลคดีเกี่ยวกับ การฟอกเงินยาเสพติด และ ใช้บัญชีม้าในการฟอกเงิน ที่จำเลย อ้างว่าเป็นการซื้อขายพระเครื่อง ไว้ ดังนี้

สำหรับพฤติการณ์คดี มีจำเลยเป็นชายหนุ่มขบวนการค้ายา 2 คน และหญิงสาวอายุ 19 ปี ที่รับโอนเงินลักษณะบัญชีม้า โดยจำเลยในคดีนี้ อ้างว่ารับโอนเงินชำระค่าพระเครื่อง

คดีนี้ มีจำเลยในขบวนการค้ายา นำสืบทำนองว่า มีอาชีพเสริมในการซื้อขายพระเครื่องทางโปรแกรมเฟซบุ๊ก การรับโอนเงินทั้งหลาย และการโอนเงินไปให้หญิงสาวนั้น เป็นบัญชีเปิดไว้ สําหรับซื้อขายพระเครื่อง

ต่อมา จำเลยอ้างว่า มีลูกค้าสั่งสร้อยข้อมือทองคำหลวงพ่อรวย จ้างทำเป็นเงิน 510,000 บาท แต่ศาลท่านพิเคราะห์ว่า ข้อเท็จจริงที่จําเลยที่ 1 อ้างเป็นเรื่องที่เพิ่ง ยกขึ้นในชั้นพิจารณาและขัดแย้งกับคําให้การในชั้นสอบสวน

นอกจากนี้ ร้านค้าของจําเลยเป็นร้านค้าบนโปรแกรมเฟซบุ๊ก ไม่ปรากฏว่าจําเลยเปิดหน้าร้าน เป็นหลักแหล่งแน่นอน และไม่ปรากฏหลักฐานใดเลยว่าเป็นช่างผู้ชํานาญงาน หรือมีฝีมือเป็นพิเศษในการรับทําสร้อยข้อมือทองคําฝังเพชรจนเป็นที่ประจักษ์ชัด

นอกจากนี้ ยังน่าสงสัยว่าเหตุใด จำเลยที่อ้างเป็นลูกค้า บอกไม่เคยรู้จักกัน แต่กลับกล้าโอนเงินให้จำนวนมาก อันเป็นการผิดวิสัยอย่างยิ่งของวิญญูชนที่ทําการค้าขาย โดยสุจริต ข้ออ้างเรื่องเป็นเงินที่ลูกค้าสั่งทําสร้อยข้อมือทองคํา จึงเป็นเรื่องเลื่อนลอยไม่มีน้ำหนัก

ที่สำคัญ คือเมื่อพิจารณาถึงบัญชีเงินฝากหมุนเวียนของจำเลย ที่เป็นหญิงสาว อายุ 19 ปี ยังเป็นนักศึกษาเท่านั้น ภายในช่วง 2-3 เดือน มีเงินหมุนเวียนถึง 26 ล้านบาท ไม่น่าเชื่อว่า บุคคลทั้งสามจะมีกระแสเงินหมุนเวียนมากมายขนาดนั้น หากประกอบอาชีพโดยสุจริต

การที่จำเลยอ้างว่า จำหน่ายพระเครื่องจึงฟังไม่ขึ้น พิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง”

คอลัมน์รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

Leave a Reply