นายอำเภอเมืองพิษณุโลก น้อมนำพระราชดำริกรมสมเด็จพระเทพฯ ปรับพื้นที่ว่างเปล่า ปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพรเป็นคลังอาหาร

วันที่17 พ.ย. 66 นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอเมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า อำเภอเมืองพิษณุโลกได้นำนโยบายจังหวัดพิษณุโลกภายใต้การนำของนายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ด้วยการยกระดับในการพัฒนาพื้นที่ 1 อำเภอ 1 โครงการสำคัญ (Flagship Project) บูรณาการร่วมกับทั้ง 7 ภาคีเครือข่ายของอำเภอเมืองพิษณุโลก พร้อมทีม D-CAST อำเภอเมืองพิษณุโลก นำความรู้ความสามารถที่ได้รับจากการอบรม ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนพิษณุโลก มาขยายผลสู่การปฏิบัติ โดยเป็นทีมที่ปรึกษาและให้คำแนะนำโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะเป็นศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง (ต้นแบบ) อำเภอเมืองพิษณุโลก ที่ได้รับความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ จากหัวหน้าส่วนราชการอำเภอเมืองพิษณุโลก รวมทั้งบุคลากรที่ทำการปกครองอำเภอเมืองพิษณุโลก สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองพิษณุโลก พร้อมได้รับการสนับสนุนบุคลากรจากกองพันทหารม้าที่ 9 กองพลทหารราบที่ 4 โดยแปลงบริเวณพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก เป็นแปลงผัก แปลงสมุนไพร แหล่งอาหารชั้นยอดของอำเภอ

นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนบูรณาการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอำเภอเมืองพิษณุโลก ในการอนุรักษ์ดิน น้ำ ป่า การปกป้องดิน สร้างความสามัคคีของคนในชุมชน พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนน้อมนำพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ดำเนินการปลูกผักสวนครัวและพืชสมุนไพร สู่ธนาคารพันธุกรรมพืช โดยเริ่มจาก “ผู้นำต้องทำก่อน” ปลูกผักภายในบ้านพักนายอำเภอ ขยายผลสู่การใช้พื้นที่ว่างสร้างคลังอาหารในบริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองพิษณุโลก ประกอบด้วยการปลูกผักสวนครัว และพืชสมุนไพร อาทิเช่น ถั่วฝักยาว พันธุ์สิรินธร เบอร์ 1 กล้วยน้ำว้า มะละกอ ถั่วพู ผักขึ้นฉ่าย บวบเหลี่ยม จิงจูฉ่าย เตยหอม และฝรั่งไส้แดง ฯลฯ เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายผลการใช้พื้นที่ว่างเปล่า พื้นที่สาธารณะให้เกิดประโยชน์ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งจะก่อให้เกิดการแบ่งปัน เกิดความรักความสามัคคีในพื้นที่ ตามแนวทางของโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” อันจะนำมาซึ่งการสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับครอบครัว และชุมชน

นายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอเมืองพิษณุโลก กล่าวต่ออีกว่า การขับเคลื่อนโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ของอำเภอเมืองพิษณุโลกในครั้งนี้ เป็นการรวมพลังของภาคีเครือข่าย อันเป็นกลไกหลักในการพัฒนาพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดได้ลงนามประกาศเจตนารมณ์เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน “76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ด้วยการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ทั้ง 17 ข้อของสหประชาชาติ และสอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ขับเคลื่อนโครงการ “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” เพื่อพัฒนาพี่น้องประชาชนให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน ช่วยกันลุกขึ้นมาร่วมแรงร่วมใจกันปลูกผักสวนครัวทุกครัวเรือน ปรับพื้นที่รกร้างว่างเปล่าของชุมชนที่อยู่อาศัย รวมกลุ่มรวบรวมเอาผลผลิตร่วมกับทางราชการเพื่อขยายผลช่องทางการตลาด ก็จะเกิดผลดีอย่างยั่งยืน จึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกคนให้ความสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร การพึ่งพาตนเอง เพื่อที่หากเราต้องเผชิญวิกฤต เราจะสามารถพึ่งพาตนเองได้ มีอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตของตนเองและครอบครัว อันจะทำให้ทุกครัวเรือนมีความมั่นคงและมีความสุข นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายอัครโชคฯ กล่าวในตอนท้าย

Leave a Reply