พระสมเด็จพุทธศิลป์ เจ้าสัวมหาเศรษฐี มนต์มยุรา “พญานกยูง มังกรทอง” ครูบาอริยชาติประกอบพิธีพุทธาภิเษก มาแรงต้อนรับปีมะโรง!

มาแรงต้อนรับปีมะโรง!!….. พระสมเด็จพุทธศิลป์ เจ้าสัวมหาเศรษฐี มนต์มยุรา “พญานกยูง มังกรทอง” ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต อ.แม่สรวย จ.เชียงราย วัดแสงแก้วโพธิญาณ

รายงานข่าวจากวัดแสงแก้วโพธิญาณแจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกพระสมเด็จพุทธศิลป์ เจ้าสัวมหาเศรษฐี มนต์มยุรา “พญานกยูงทอง มังกรทอง” ที่ดำเนินการจัดสร้างโดย ทีมพี่เสือ

ในพิธีการปลุกเสกได้รับความสนใจจากคณะศิษย์ทั้งชาวไทยและต่างประเทศอย่างล้นหลาม วัตถุมงคลทั้งหมดถูกจองหมดอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันราคาได้สูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะชุดพิเศษและชุดการเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

สำหรับความเป็นมาและจุดประสงค์ของการจัดสร้างพระสมเด็จพุทธศิลป์รุ่นเจ้าสัวมหาเศรษฐีมนต์มยุรา ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต นักบุญแดนล้านนา นั้น จัดสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสมทบปัจจัยซื้อรถพยาบาลฉุกเฉิน(Ambulance) มอบให้กับทางวัด ตลอดจนร่วมสร้างเสนาสนะสถานต่างๆ ภายในวัดแสงแก้วโพธิญาณ จังหวัดเชียงราย

พุทธศิลป์ของวัตถุมงคลชุดนี้เป็น พระสมเด็จพุทธศิลป์ เจ้าสัวมหาเศรษฐี มนต์มยุรา ยันต์นกยูง ” จะพะทะวะ ” เป็นยันต์เมตตา มหานิยมมหาเสน่ห์ ของภาคเหนือ

ทั้งนี้ครูบาอริยชาติ ได้อธิบายว่า การนำสัตว์มงคลมาใส่นั้น ต้องการให้มีคุณ2 ประการคือ พระเดช คือ มังกร พระคุณ คือ นกยูง ซึ่งเหมือนหยินหยาง เป็นของคู่กันทำให้สมดุลค้ำคูณให้เจริญรุ่งเรือง ค้าขายคล่อง การงานราบรื่น

ในขณะที่ นายนิภัทร์ สมาร์ทอิมเมจ” ให้ข้อมูลเพิ่มว่า นกยูงที่ปรากฏบนองค์มาจากถาที่ครูบาอริยชาติใช้เป็นประจำ ซึ่งมาจากพระคาถาป้องกันภัย หรือคาถาโมรปริตร หรือที่เรียกกันติดปากว่า คาถาพญายูงทอง จากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ถือเป็นหนึ่งในบทสวดมนต์สำคัญ

ทั้งนี้เชื่อกันว่าช่วยป้องภัยภัยนานาประการ กันไฟ กันฟ้าผ่า แคล้วคลาดเป็นเลิศ โดยเป็นคาถาที่ปรากฏในตำนานโมรปริตร (อุเทตะยัญจักขุมา) ซึ่งเป็นเรื่องราวในสมัยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทเจ้า

ส่วน มังกร มีคติความเชื่อว่าเป็น สัตว์นำโชคตัวนี้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนทั้งหลายเชื่อกันว่ามังกรเป็นตัวแทนของโชคลาภ อำนาจ และความรุ่งเรือง โดยเฉพาะธุรกิจร้านค้ามักจะมีรูปภาพหรือรูปปั้นมังกรประดับตกแต่งไว้ภายใน เพื่อเสริมโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองให้กับธุรกิจและร้านค้า

สำหรับประวัติความเป็นมานั้น’ครูบาอริยชาติ’ พระนักบุญแห่งล้านนา แห่ง วัดแสงแก้วโพธิญาณ ได้ชื่อว่าเป็นนักบุญแห่งแดนล้านนา เพราะท่านมีความเชื่อในศาสนาล้านนา มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ในเหตุที่ท่านอยู่กรรม เข้านิโรธสมาบัติเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน ไม่ฉัน ไม่ถ่าย ไม่พูด ไม่จา นั่งภาวนาตลอดเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน

เหนือเวทนาทั่วไปที่มีมนุษย์ธรรมดาจะทำได้ ซึ่งการเข้านิโรธสมาบัตินี้ ตามคัมภีร์ของพุทธศาสนาฝ่ายล้านนา เชื่อว่า พระอริยบุคคลระดับพระอนาคามีขึ้นไปเท่านั้นที่ทำได้

สำหรับ “ครูบาอริยชาติ” ท่านเรียกการเข้านิโรธของท่านว่า “การอยู่กรรม” ซึ่งจะกระทำในวันเข้าพรรษา ซึ่งท่านจะอยู่กรรมทุกปี โดยมีชาวบ้านและพระสงฆ์จากวัดต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าดูแล ด้านนอกกระโจม และรอที่ที่จะใส่บาตรครูบาในวันที่ออกจากนิโรธ ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ศรัทธาให้ความเคารพนับถือทั่วประเทศ รวมถึงต่างประเทศ

ครูบาอริยชาติ เกิดเมื่อที่ 9 ม.ค. 2524 ที่บ้านปิงน้อย อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ช่วงวัยเด็ก “ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต” มีผิวพรรณผุดผ่อง มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน

ซึ่งโยมพ่อโยมแม่ ได้ตั้งชื่อในวัยเด็กของครูบาว่า “เด็กชายเก่ง” นอกจากมีความจำเป็นเลิศ และเรียนเก่งแล้ว ยังมีอุปนิสัยเป็นผู้ที่ชอบความสงบ ไม่ชอบเบียดเบียนผู้ใด

ครูบาอริยชาติ มีความผูกพันกับวัดเป็นอย่างมาก ขณะอายุได้ 12 ปี มักจะตามพี่ชาย ไปที่ วัดชัยชนะ จ. ลำพูน เสมอ จึงทำให้มีโอกาสได้พบกับ ครูบาจันทร์ติ๊บ ญาณวิลาโส อดีตเจ้าอาวาสวัดชัยชนะ ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งครูบาจันทร์ติ๊บผู้นี้นับได้ว่าเป็นพระผู้เรืองในวิทยาคุณในยุคนั้น

ครูบาจันทร์ติ๊บได้สอนศีลธรรมจรรยาต่างๆ ให้ จนต่อมาครูบาจันทร์ติ๊บ ถึงกับเอ่ยปากว่า

“เด็กผู้นี้มีวาสนาทางธรรมสูงยิ่งนัก ต่อแต่นี้ไปเราขอตั้งชื่อเด็กชายผู้นี้ว่า อริยชาติ อันหมายถึง ผู้ที่มีภพชาติอันเป็นอริย”

จากนั้น ครูบาอริยชาติ จึงได้บวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2541 ณ วัดชัยมงคล ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน ขณะที่มีอายุ 17 ปี โดยมี พระครูภัทรปัญญาธร วัดศรีสุพรรณ จ.ลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์

เมื่ออายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบท เป็นพระภิกษุ ณ วัดพัทธสีมาชัยมงคล (วังมุย) ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน ได้รับฉายานามว่า “พระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต”

โดยได้จำพรรษาอยู่ที่วัดพัทธสีมาชัยมงคล (วังมุย) โดยท่านได้มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมเป็นหลักสำคัญ แต่ด้วยญาติโยมที่ได้รับประสบการณ์ในวิชาคาถาอาคม ความแคล้วคลาด ปลอดภัยเมตตา หลั่งไหลมาเป็นลูกศิษย์ไม่ขาดสาย

ต่อมาท่านได้รับอาราธนาจากญาติโยม อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มาจำพรรษา ณ วัดพระธาตุดงสีมา ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ก่อนมาสร้างวัดแห่งใหม่ ชื่อว่า “วัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ” บนพื้นที่เนินเขาบ้านป่าตึง ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเกิดขึ้นมาจากนิมิตของ “ครูบาอริยชาติ”

ได้นิมิต ว่า เห็นฝนตกหนัก เดินหลงทาง ก็ได้เห็นป่าทั้งป่าบนภูเขา มีดอกบัวบานเต็มไปหมด มีแสงสว่างไสวสวยงาม แสงเรืองรองเหมือนแสงแก้วกลายเป็นดอกบัว อีกนัยหนึ่งคือ โพธิญาณ หมายถึง หยั่งรู้ เหมือนบัวที่ผุดโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำ แล้วเปล่งแสง คล้ายแสงแก้ว โดยเริ่มวางศิลาฤกษ์ และเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2549 ตรงกับเดือนแปดเป็งของล้านนา ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา วันเพ็ญเดือนหก

ทีมพี่เสือพร้อมผู้ร่วมบุญทุกๆคน ทั้งที่มาร่วมงานเเละไม่ได้มาวันนี้ เราได้ถวายปัยจัยเป็นเงิน500,000 บาทเพื่อร่วมซื้อรถกู้ซีพพร้อมถวายพระทองคำ ครูบาอริยชาติ1องค์ รวมถวายปัยจัยรวมทั้งหมด 700,000บาท

ส่วนผู้สนใจติดตามความเคลื่อนไหวการจัดสร้างวัตถุมงคลของ “ทีมพี่เสือ” ได้ที่…https://www.facebook.com/groups/1242269399567579/?ref=share_group_link

Leave a Reply