จับตา!! “แจ๋น” ไป..ใครมาคุม “พศ.”

หากไม่เป็นพูดถึง “เจ้าคุณสุมินทร์” ศิษย์เอก ‘พระเทพภาวนาวิกรม วิ.’ หรือว่า ‘หลวงปู่บุญมา ปุญญาภิรโต’ พระกรรมฐานสายป่าชื่อดังจังหวัดชัยภูมิ  ถือว่า “ตกข่าว”  เท่าที่รู้ครั้งนี้มิใช่ครั้งแรกที่ “เจ้าคุณสุมินทร์” ปลีกวิเวกในป่า เนื่องจากบ้านเกิดอยู่บริเวณนั้น และโดยธรรมชาติท่านก็ชอบเดินป่า เพราะท่านเป็นสายวัดป่า แต่ที่พลาดดัน “ลืมจุดธูป” บอกเจ้าที่  เพราะคิดว่า “ป่าบ้านเกิด” คงไม่มีอะไร ดันลืมคิดว่าท่านมีตำแหน่งและลืมคิดต่อว่าเป็นรองเจ้าคณะจังหวัด

อาจเป็นไปได้ว่า “มีคนจ้องเสียบ” หรือไม่ก็ “สกัดดาวรุ่ง” สู่ตำแหน่ง “เจ้าคณะจังหวัด” หรือไม่ก็สกัดการก้าวหน้าทาง “สมณศักดิ์” เพราะท่านเป็นประโยค 9 คนจบประโยค 9 แล้วไปใช้ชีวิตสมณเพศทาง “กรรมฐาน” ในวงการสงฆ์หายากยิ่งกว่า “งมเข็มในมหาสมุทร”  และที่พลาดต่อมาคือ ฆราวาสที่ติดตาม “ห้าว” ดันวิ่งหนีและยิงปืน

ปัญหาเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะ “เจ้าหน้าที่อุทยาน” กับ “พระชอบอยู่ป่า” เป็นปัญหา “โลกแตก”

 

“เปรียญสิบ” เป็นที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการศาสนามาหลายวาระ ปัญหาวัดในเขตอุทยาน ปัญหาวัดในเขตที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐ มีวาระให้แก้ทุกครั้งที่ประชุม อันนี้ไม่นับรวม “สำนักสงฆ์ -ที่พักสงฆ์” ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐอีกมีนับหมื่นแห่ง

บางวัดตั้งมานับร้อยปี กรมอุทยานประกาศพื้นที่ทับที่ดินวัด กลายเป็นปัญหาเรื้อรัง เพราะต่างคนต่างบอกว่า..พื้นที่ฉัน…บางวัดสู้จนชนะ แต่บางคนไม่มีเงิน ไม่มีพรรคพวก “ยอมแพ้”

แม้แต่วัด “พระธาตุดอยสุเทพ” จังหวัดเชียงใหม่..ก็มีปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับกรมอุทยาน ฯ

ล่าสุด “เปรียญสิบ” จัดงาน “บรรจุพระธาตุ -ยกฉัตร” เจดีย์เก่าแก่ที่สร้างมา 50 กว่าปี ตั้งอยู่ในเขตอุทยาน ก่อนจัดงาน 2 วัน เจ้าหน้าที่อุทยานในพื้นที่ประกาศ “ห้ามจัด” อ้าง “กลัวเป็นข่าว” ผู้ใหญ่ในกระทรวงจะเล่นงานเอาได้ เนื่องจากเจดีย์ตั้งอยู่เป็นเขตอุทยาน “ห้ามจัดกิจกรรม” หากจัดต้องขออนุญาตก่อน ซึ่งหากยึด “กฎหมาย” ถูกต้อง

สุดท้ายโชคดี “ปลัดตุ่ม” คุณจตุพร บุรุษพัฒน์ และ “อธิบดีกรมอุทยาน”  ขจัดปัดเป่าแก้ปัญหาให้ การจัดงานจึงราบรื่น!!

วัดตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐ ตั้งอยู่ในเขตอุทยาน กรมป่าไม้ หรือแม้กระทั้ง สปก. เขตทหาร การแก้ปัญหาจึงควรเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกคนใหม่ที่ดูแลพระพุทธศาสนา “ต้องทำ”

“เปรียญสิบ” เคยฝากเรื่อง “วัดไม่มีโฉนด” วัดตั้งอยู่ในเขตที่ดินของรัฐ ถึง “รัฐมนตรีแจ๋น” แต่ไร้เหลียวแล

สุดท้าย..ตอนนี้ “รัฐมนตรีแจ๋น” กลายเป็น “อดีตรัฐมนตรี” แล้ว

“เปรียญสิบ”  เคยบอกแล้วว่า “รมต.แจ๋น” อยู่ได้ไม่นานหรอกในตำแหน่ง “รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” เพราะวิถีคิด วิถีทำ มิใช่สไตร์คนพรรคเพื่อไทยที่ คิดไว ทำไว ใส่ใจเครือข่าย และเข้าถึงปัญหา

และควรเอาคนอื่นมาเป็นแทน เช่น “พิชิต ชื่นบาน” ที่ คณะสงฆ์ไว้วางใจเนื่องจากเคยทำงานร่วมกับคณะสงฆ์มาก่อน มีคอนเนคชั่นกับองค์กรชาวพุทธหลายองค์กรอยู่

ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา “รัฐมนตรีแจ๋น” ไม่มีนโยบายเชิงรุกอะไรที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์เลย ฟังแต่ “ข้าราชการประจำ” อย่างนี้ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมี “รัฐมนตรี” ก็ได้

เสียชื่อยี่ห้อพรรคเพื่อไทย เสียชื่อทักษิณ ชินวัตร หมด..

 “รัฐมนตรี” ที่ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มันต้องทำงาน “เชิงรุก” ไม่ต้องฟังข้าราชการมาก ข้าราชการฟังเรื่องกฎระเบียบ “ทำได้ ไม่ได้” พอ

การทำงาน “เชิงรุก” ด้านพระพุทธศาสนา หากไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง?? ลองไปค้นดูคอลัมน์ “ริ้วผ้าเหลือง” ที่เคยเขียน “การบ้านพรรคเพื่อไทย” ด้านพระพุทธศาสนา เอาไว้ มีทั้งระยะสั้น ระยะยาว รวมทั้ง “ปมปัญหา” ที่ “รัฐบาลประยุทธ์” สร้างเอาไว้ เช่น การไล่พระออกจากป่าตามนโยบาย “ทวงคืนผืนป่า” ปิดวิทยุธรรมะ ปิดสถานีโทรทัศน์ ต้องเร่งเยียวยาคืนความเป็นธรรมให้ “วัดพระธรรมกาย-คดีเงินทอนวัด”

และสุดท้ายอันนี้ขอฝากรัฐมนตรีใหม่ไม่รู้ใครคุม สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติและดูแลกิจการคณะสงฆ์ระหว่างวันที่ 19-20 พฤษภาคม 2567 นี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดงานวิสาขบูชาโลก มีผู้นำประเทศ ประมุขสงฆ์ แขกบ้านแขกเมืองกว่า 1,300 คน จาก 73 ประเทศ คณะสงฆ์ท่านทำเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลต้องอย่าให้เสียหน้าเด็ดขาด!!

Leave a Reply