บางกะปิโมเดล แก้ปัญหา “พระยืน-นั่ง ปักหลัก” รับบาตร

ปัญหาโลกแตก!! ของคณะสงฆ์ปัญหาหนึ่งที่กลายเป็น  “ดินพอกหางหมู” และเป็นที่ “เอือมระอา” ของชาวพุทธและเจ้าคณะปกครองมานานนับหลายสิบปีนั่นคือ..พระยืนรับบาตร นั่งรับบาตร แม้กระทั้ง “หมุนเวียน” กับข้าวใส่บาตร อันเป็นที่รับรู้กันระหว่าง “พระภิกษุและร้านค้า” บางร้านที่ขายกับข้าวใส่บาตร..ดีไม่ดีอาหาร “บูด” อีกต่างหาก

นึกถึงยุค “ผู้เขียน” ครองสมณเพศชื่อเสียง “พระมหาเวย -พระมหาดุลย์” สองสิงห์เหนือ เสือใต้ “มือปราบ” พระนอกรีตในนาม “พระวินยาธิการ” ยุคนั่นคนมองว่าทั้งสองเป็น  “ตำรวจพระเถื่อน” แต่ได้ชาวบ้านทั่วประเทศ ไม่เหมือนยุคนี้ คณะสงฆ์มีระเบียบ “มหาเถรสมาคม” ว่าด้วยพระวินยาธิการแล้ว แต่ยัง “ออกอาวุธ” ได้ไม่ทันใจชาวบ้านเท่าไร

ระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วย “พระวินยาธิการ” ประกาศใช้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562   มีทั้งหมด 28 ข้อ กำหนดให้ตำบลหรือแขวงทุกแห่ง ต้องมีพระวินยาธิการทุกแห่ง ๆ มีคุณสมบัติเป็นเปรียญหรือนักธรรมเอก ตำบล ละ 2 รูป เพื่อขจัดพระ “นอกรีต” ที่เป็นปฎิปักษ์ต่อ พระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชหรือแม้กระทั้งคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหนือตน

ปัญหาหนึ่งที่กระทบต่อความ “ศรัทธา” ของญาติโยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่ ๆ  ที่ชาวพุทธ “มักแอนตี้” คณะสงฆ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั่นคือ “พระยืน -นั่ง -ปักหลัก” รับบาตร โดยเฉพาะบางรูปนำถุงปุ๋ย นำกระป๋องหรือไม่ก็รถเข็น “ยืนรับ” หรือแม้กระทั้ง “นั่งรับ”  บางรูป “รู้เห็นเป็นใจ” กับร้านค้า..อันนี้เจ้าคณะปกครองบางแห่งก็รับรู้..แต่กลับปล่อยปละละเลย ไม่ได้ “กวดขัน” อย่างจริงจัง..เหมือนยุคสมัย  “พระมหาเวย -พระมหาอดุลย์” ยุคที่ “พระวินยาธิการ” เป็น “ตำรวจพระเถื่อน”

ล่าสุดเหตุเกิด ณ เขตบางกะปิมีคนร้องเรียนผ่านเพจเวปไซต์ข่าว “Thebuddh” ว่าที่ตลาดนครไทย ลาดพร้าวซอย 101 ทุกเช้าจะมีพระภิกษุจำนวน 3 รูป จับจองพื้นที่ในตลาด แล้วนั่งรอคนมาทำบุญ ไม่รับข้าวใส่บาตร จะรับแต่เงิน ถ้าจะใส่ข้าวต้องจัดเป็นถุงสำเร็จ มีถุงปุ๋ยใบใหญ่เกิน “สมณสารูป” ไม่นำมาซึ่งความศรัทธา.

หลัง ““Thebuddh” เสนอข่าวไม่ “กี่นาที” มีคนแจ้งมาว่า “เรียนเจ้าคณะเขต” คือ “พระครูอุดมพัฒนาคุณ” เจ้าอาวาสวัดพระไกรสีห์ (น้อย) ทราบแล้ว ไม่ถึง 2 วัน หลวงพ่อ “เจ้าคณะเขตบางกะปิ” สั่งการให้ให้พระวินยาธิการในเขตบางกะปิ พระเลขาเขตบางกะปิ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ และ กอ.รมน. ลงพื้นที่ตรวจตามเรื่อง ตามที่ได้รับร้องเรียนมา พบว่า มีพระบิณฑบาต กระทำผิด ฐาน ยืน-นั่งปักหลักบิณฑบาต 3 รูป จริง จึงได้นำตัวไปสอบสวนซึ่งจากการสอบสวนพบว่าเป็น “พระจริง” จำพรรษาอยู่วัดในเขตบางกะปินั่นแหละ  จึงนำมากล่าวตักเตือน ลงโทษเรียบร้อย คาดว่า “คงเข็ด” ไปอีกนาน..

“ผู้เขียน” ต้องขอขอบคุณเจ้าคณะเขตและคณะสงฆ์เขตบางกะปิ ร่วมทั้ง “ประชาชน” ผู้เป็นต้นเรื่อง พวกเราถือว่าเป็น “เจ้าของศาสนา” ร่วมกัน อย่าให้ “หลือบ -ริ้น – ไร” มาเกาะกิน มาทำลาย..พระพุทธศาสนาของเรา พวกเราต้องต้องร่วมกันปกป้องและคุ้มครอง และไม่เฉพาะเรื่อง “พระยืนรับบาตร” นี้เท่านั้น..รวมทั้งกรณีอื่น ๆ ด้วย

นิ้วไหน.ไม่ดีต้องตัดทิ้ง..ยุคนี้ประชาชนจะต้อง “ไม่อดทน” ต่อพฤติกรรมนอกรีตของพระนอก “พระวินัย” จะปล่อยให้เหมือนยุคก่อนที่ว่า “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” ไม่ได้อีกต่อไป  ซึ่งปัจจุบันประชาชนที่มีการศึกษาดี ประชาชนรากหญ้าที่รักพระพุทธศาสนา..ออกมาปกป้องพระพุทธศาสนากันเป็นจำนวนมาก..อันนี้ถือว่า.เป็นสัญญาณที่ดี

“บางกะปิโมเดล” คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร นำโดย “พระธรรมวชิรมุนี”  เจ้าคณะกรุงเทพมหานครต้องยกย่องและนำเป็น “แบบอย่าง” ให้เจ้าคณะเขตอื่น ๆ นำไปปฎิบัติ อย่างน้อย “ทันใจ -ได้ใจ” ชาวบ้านแก้ปัญหาการร้องเรียน รวมทั้งมีการทำงาน “บูรณาการ” ร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐดังที่กล่าวมา

และเรื่องพระยืนปักหลักรับบาตรนี้ ไม่เฉพาะในกรุงเทพมหานครเท่านั้นที่มีปัญหา แม้แต่ในต่างจังหวัดตามชุมชน ตลาดใหญ่ ๆ ก็ “มักมี”  ควรใช้ “บางกะปิโมเดล” นี้นำไปขยายผลทั่วประเทศ

ระเบียบมหาเถรสมาคม “พระวินยาธิการ” ประกาศแล้ว ไม่ใช้ ไม่ให้ พระวิยาธิการหรือตำรวจพระ ทำงานมันก็เป็นแค่ “กระดาษเปล่า” ไร้ความหมาย

และให้ดี “มหาเถรสมาคม” ช่วยหาค่าน้ำมันรถให้ “ตำรวจพระ” ด้วยก็ดี เท่าที่ได้ยินมามีเงินอุดหนุนตำบลละแค่ 2,000 บาทต่อปีเอง.!!

Leave a Reply