วันที่ 9 ธันวาคม 2566  ภายหลังโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆ ทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพจากเพจเฟซบุ๊กชื่อ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 7” ซึ่งได้โพสต์คลิปเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ทำการไลฟ์สดขณะทำวัตรเย็นในโบสถ์ โดยมีพระสงฆ์-สามเณรหลายรูปร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็นด้วย ก่อนที่พระสงฆ์รูปหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าสุดซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าอาวาส ลุกขึ้นและเดินไปช่วงกลางแถว ก่อนจะลงมือตบที่ศีรษะของเณรตามที่เพจระบุ จนเสียงดังก้อง พร้อมกับถีบเณรจนต้องใช้แขนค้ำยันเอาไว้ไม่ให้หงาย ก่อนที่คลิปจะตัดไป พร้อมระบุข้อความด้วยว่า “เหรียญต่างมุมมอง เจียรกะโหลกสักป้าดสองป้าดเสียงดังฟังชัด…ขำ=บาป ขอฝากข่าวเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นทำโทษเณร เป็นถึงพระราชาคณะชั้นเทพ สมควรหรือไม่” จนกลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความเหมาะสม นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่วัดหนองกุง ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พบกับพระเทพวิสุทธิคุณ  (ถนอม ชินวงโส) เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดหนองกุง พร้อมกับชี้แจงถึงคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า เป็นคลิปที่เกิดขึ้นขณะนำพระสงฆ์ สามเณร ในวัด ทำวัตรเย็นที่โบสถ์ โดยมีการไลฟ์สดไปด้วย ขณะทำวัตรก็พบว่า สามเณรก้อนคำ นั่งหลับในลักษณะคว่ำหน้า จึงลุกขึ้นไปใช้สันมือตบที่ท้ายทอย จากนั้นก็ใช้เท้ายัน เป็นการสั่งสอนที่ไม่รุนแรง และเป็นมาตรการส่วนตัวในการปกครองพระลูกวัดและสามเณรในวัดตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งมีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือนจนถึงไล่ออกจากวัด

“สำหรับสามเณรก้อนคำนั้น ทำผิดมาหลายครั้ง ไม่ทำวัตรเช้า ไม่ค่อยมาปฏิบัติกิจของสงฆ์ ถูกทำโทษหลายครั้ง ทั้งให้วิ่งรอบพุทธมณฑล อาบน้ำเย็น ล้างหน้า ล้างห้องน้ำ ก็ยังไม่หายและยังมีพฤติกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ จนล่าสุดในครั้งที่กำลังไลฟ์สดทำวัตรเย็น จึงลุกขึ้นไปปลุกและสั่งสอน ที่ทำเช่นนี้ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการสั่งสอนให้รู้ตัวว่า ไม่ควรทำเช่นนี้ และขอเตือนสามเณรก้อนคำ ต่อหน้าทุก ๆ คนว่า ถ้ายังไม่ปรับปรุงตัว ไม่ปรับปรุงพฤติกรรม แล้วยังเกิดขึ้นซ้ำอีก จะไล่ออกจากวัด ไม่ให้อยู่ที่วัดอีก เพราะที่ให้อยู่ที่วัดทุกวันนี้เนื่องจากเกรงใจคนที่พามาบวชเรียน ในเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ว่าโซเชียลไม่ดี แต่อยากให้มีการไตร่ตรอง มีข้อมูลรอบด้านก่อนที่จะนำมาลง เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีอะไรที่รุนแรง” เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าว

ขณะที่สามเณรก้อนคำ อายุ 14 ปี บอกว่า ผมทำผิดบ่อย ถูกลงโทษมาหลายครั้ง และชอบหลับในช่วงทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น จนถูกท่านเจ้าคณะจังหวัดลงโทษ ซึ่งไม่ได้โกรธเพราะถือว่าเป็นการสั่งสอน และต่อไปจะไม่หลับและจะไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำขึ้นอีก ที่ผ่านมามีทั้งโดนให้ทำโทษวิ่ง อาบน้ำเย็นหน้าหนาว ให้ยืน และอีกหลายอย่าง

ภายหลังจากทางเจ้าคณะจังหวัดและสามเณรชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นและไม่ได้มีการโกรธเคืองกันแต่อย่างใด ทางสามเณรก็ได้ก้มกราบและลั่นสัจจะวาจาว่าจะตั้งใจทำวัตรเช้า-เย็น และไม่หลับในขณะทำวัตร ซึ่งหลวงพ่อถามสามเณรว่า ถ้าทำผิดอีกจะให้ไล่ออกหรือโดนบ้องหู ซึ่งสามเณรขอเลือกที่จะโดนบ้องหูมากกว่าถูกขับไล่ออกจากวัดไป

ขณะที่นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ อดีตกำนันตำบลหนองกุง กล่าวว่า ตนเองเป็นคนพาสามเณรก้อนคำ มาบวช เพราะครอบครัวยากจน พ่อแม่ตระเวนพาไปรับจ้างต่างจังหวัด ต้องออกจากโรงเรียน ขณะเรียนชั้น ป.1 ญาติพี่น้องอยากให้หลานมีความรู้ จึงมาขอร้องให้พามาบวชเรียน จึงได้พามาบวชเรียนที่วัดบ้านหนองกุง ฝากให้ท่านเจ้าอาวาสหรือท่านเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น อบรมสั่งสอน และส่งเรียนในขั้น ป.2 ที่โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดบ้านหนองกุง

“ที่ผ่านมาก็พอรู้พฤติกรรมของสามเณรก้อนคำว่า ไม่ค่อยทำกิจวัตรของสงฆ์ ก็คอยว่ากล่าวตักเตือนกันเรื่อยมา จนกระทั่งท่านเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ได้ทำการสั่งสอนขณะที่สามเณรก้อนคำนั่งหลับตอนทำวัตรเย็น จนมีภาพเผยแพร่ออกไป โดยส่วนตัวไม่คิดอะไร และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องความรุนแรงแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการสั่งสอนลูกหลานให้หลาบจำ จะได้ไม่ทำอีก และส่วนของโยมอุปัฏฐากที่รู้จักอุปนิสัยของหลวงพ่อเป็นอย่างดี ยืนยันอีกเสียงว่าเป็นการลงโทษตามแบบของหลวงพ่อให้ทุกคนที่โดนทำโทษได้ปฏิบัติดี ตามหลักคำสอน และการลงโทษของหลวงพ่อนั้นก็ไม่ได้ทำรุนแรง แต่อาจเพราะอยู่ในโบสถ์ ทำให้เสียงก้องจึงเหมือนว่าทำรุนแรง แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีอะไร และเชื่อว่าอาจจะมีผู้ไม่หวังดีคอยกลั่นแกล้ง นำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์โจมตีหลวงพ่อ” อดีตกำนันตำบลหนองกุง

สำหรับพระเทพวิสุทธิคุณ หรือ “เจ้าคุณถนอม” เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เพิ่งได้รับขนานนามฉายาจากสื่อมวลชนว่า พระแท้..ผู้ไม่ทน เนื่องจาก เป็น “พระนักเทศน์” ฝีปากกล้า มีลีลาชั้นเชิง ลูกเล่นแพรวพราว ตระเวนเทศน์ทั่วอีสาน ซ้ำเทศนาสั่งสอนประชาชนแบบไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง “ตรงไปตรงมา” เพื่อความถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย ตามกฎหมายบ้านเมือง และจารีตประเพณี “เจ้าคุณถนอม” มีหลายครั้งวิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษา การปกครองคณะสงฆ์ และกรรมการวัดแบบ..ตรงไปตรงมา ได้ใจคณะสงฆ์เจ้าอาวาสและชาวพุทธทั้งประเทศ..

ที่มา : เดลินิวส์