“ดร.นิยม” รับหนังสือจากตัวแทน 20 องค์กรชาวพุทธ ค้าน “ร่างพ.ร.บ.กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก”

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.นิยม เวชกามา อดีต สส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย ได้รับหนังสือจากตัวแทนองค์กรพุทธศาสนา 20 องค์กร  นำโดย นายประพันธ์ กิตติฤดีกุล เลขาธิการองค์การปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ และ ผู้อำนวยการสถานี อปอพส ทีวี นางลัดดาวัลย์ ปวีระชัย  ประธานมูลนิธิคุ้มครองปกป้องพระพุทธศาสนา นายดุลยวิทย์ นาคอุไร ผู้ทรงคุณวุฒิองค์กรปกป้องพุทธศาสนา นายโอภาส สีเจริญชัย ประธานองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพจังหวัดชลบุรี นายกฤษณพงศ์ สอนน้อย ประธานองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพจังหวัดเพชรบูรณ์ และตัวแทนชาวพุทธในสามจังหวัดชายแดนใต้อีกหลายท่าน ได้ยื่นหนังสือคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การใช้กฎหมายอิสลามว่าด้วยศาลครอบครัวและมรดกฉบับที่พ.ศ. ของ สส.พรรคประชาชาติ ซึ่งอยู่ในระหว่างการทำประชาพิจารณ์  โดยกลุ่มผู้ร้องเรียนอ้างว่ามีเนื้อหาของกฎหมายที่เอาเปรียบชาวพุทธที่จะนำมาใช้ทั้งประเทศ

นายประพันธ์ กิตติฤดีกุล  แกนนำชาวพุทธ เปิดเผยว่า “ในการคัดค้านนี้ ผู้คัดค้านถือว่าการ เสนอกฎหมายที่ลอกมาจากคัมภีร์อัลกุลอานซึ่งชาวพุทธส่วนใหญ่ยังไม่ทราบ แต่เป็นร่างที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 และ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 เป็นการขยายเขตอำนาจให้ศาลนาอิสลามไปทั่วประเทศไทย ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในขณะที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ..”

นายประพันธ์ กิตติฤดีกุล  ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า .วันนี้ ได้ยื่นหนังสือคัดค้านไปแล้วหลายแห่ง ที่ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ ผู้นำฝ่ายค้านด้วย..

 ด้าน ดร.นิยม เวชกามา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้ไปผูกพันเกี่ยวกับพี่น้องประชาชนชาวพุทธทั้งประเทศ และเป็นกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับการคลังงบประมาณ

“คิดว่ายังไม่สามารถนำเข้าสู่สภาได้เพราะต้องให้นายกรัฐมนตรี รับรองเสียก่อนคิดว่านายกฯคงยังไม่รับรองต้องพิจารณาให้รอบคอบเพราะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลถ้าหากมีศาลอิสลามขึ้นทุกจังหวัดก็ต้องต้องใช้ผู้พิพากษาซึ่งเป็นตุลาการฝ่ายศาสนาอิสลามทั้งหมด ที่มีความรู้เข้าใจในคัมภีร์อัลกุลอาน ซึ่งลอกมาเป็นกฎหมายฉบับนี้ เพราะฉะนั้น ต้องสอบถามจากนักวิชาการกฎหมายต่างๆโดยเฉพาะราชบัณฑิตทางพระพุทธศาสนาด้วย ไม่เช่นนั้น จะเกิดการลักลั่นกัน เพราะบางจังหวัดก็ไม่มีพี่น้องชาวมุสลิมอยู่เลย แต่กฎหมายก็ต้องใช้ไปทั่วประเทศด้วยหากมีการประกาศใช้แล้ว น่าจะสร้างปัญหาตามมาในภายหลังครับ”ดร.นิยม กล่าวในตอนท้าย

Leave a Reply