วันที่ 9 สิงหาคม 2566   จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีแก๊งชาวจีนที่เข้ามาเช่าพื้นที่ภายในวัดเชาชีจรรย์ เปิดร้านจำหน่ายพระเครื่องปลอมในราคาสูงให้นักท่องเที่ยวชาวจีน กระทั่งเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบจนสามารถจับกุมชาวจีนได้ 12 ราย พร้อมยึดของกลางหลายรายการ ก่อนนำตัวส่ง สภ.สัตหีบ เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สืบสวนขยายผลคดีดังกล่าวจนทราบว่ามีกลุ่มทุนจีนวางแผนเช่าแผงพระเครื่องภายในวัดเขาชีจรรย์ ซึ่งเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นจำนวนมาก จากนั้นยังได้กว้านซื้อพระปลอมราคาถูกจากหลายแหล่งนำมาตกแต่งทำกรอบทองปลอม หลอกขายให้นักท่องเที่ยวในราคาแพง จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย

นอกจากนั้น ยังพบ 1 ใน 12 ผู้ต้องหาชาวจีนได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่อำเภอว่าบุตรชายของตนเองเป็นลูกของคนไทย เพื่อให้บุตรได้สัญชาติไทยจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 4 ราย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายจาง หมิง เฉิน สัญชาติจีน 2.นายจาง หง เซี่ยง สัญชาติจีน 3.นายชู หุ่ย เฉิน สัญชาติจีน 4.นางย่ง หง จู สัญชาติจีน ดำเนินคดีความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

ส่วนรายที่ 5.พระครูวิสุทธิ์ธรรมานุสิฐสมศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดเขาชีจรรย์​ ถูกดำเนินคดีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ

และรายที่ 6.น.ส.พยอม ผาพิมพ์ ผู้เช่าที่จำหน่ายพระให้แก๊งคนจีน แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

วาน นี้  (8 ส.ค.)​ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศภายในวัดเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ​จ.ชลบุรี พบว่าเป็นไปด้วยความเงียบเหงาและไม่มีผู้ใดอยู่ภายในวัด ส่วนบริเวณห้องโถงมีการนำพระมาขายเหลือเพียงห้องว่างเปล่า เช่นเดียวกับรรยากาศโดดยรอบวัดที่ไม่มีการนำสินค้า หรือวัตถุมงคลมาวางขายเช่นเคย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการของเจ้าอาวาสวัดเขาชีจรรย์ หลังตรวจสอบพบเส้นทางการเงินหลายสิบล้านบาท โดยเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งชาวจีนเช่าพื้นที่หลอกขายพระปลอมด้วยเช่นกัน 

ขณะที่ก่อนหน้านี้นางหนึ่งฤทัย พูลลาภ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี  นายจักรกฤษณ์ วิสุทธิศิริ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมพระพุทธศาสนาและกิจการพิเศษ และนายวีรสิทธ หลงเจริญ นักวิชาการศาสนาชำนาญการ ร่วมประชุมกับผู้แทนสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี เพื่อหารือในการออกเอกสารสิทธิที่ดินที่ตั้งของวัดใหม่บ้านสวน และตรวจสอบเสนาสนะของวัดใหม่บ้านสวน โดยได้รับความเมตตาจากพระชลญาณมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองชลบุรี (ธ) เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยญาติโยมของวัดใหม่บ้านสวน โดยการประชุมและตรวจสอบเสนาสนะดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ณ วัดใหม่บ้านสวน  ตำบลบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี

ที่มา..ผู้จัดการออนไลน์ -สำนักงานพุทธศาสนา จ.ชลบุรี