องค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว ดูงานฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศที่ “มจร”

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2565 พระธรรมวัชรบัณฑิต,ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) และผู้บริหาร ให้การต้อนรับคณะผู้แทนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชนลาว (สปป.ลาว) ภายใต้การนำของ ดร.จันเพ็ง สุทธิวง รองประธานศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ และคณะองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ แห่งสปป.ลาว โอกาสที่เดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม-1 มิถุนายน 2565 ในฐานะแขกของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ศึกษาดูงานการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ที่ มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ดร.จันเพ็ง กล่าวว่า ทางรัฐบาลสปป.ลาวสนใจหลักสูตรอบรมนี้ที่ส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณรมีความรู้ความสามารถมากขึ้น

โดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ดร.จันเพ็ง ได้นำคณะเข้าพบนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้องค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชนลาว (สปป.ลาว) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้หารือความร่วมมือทางวิชาการ โดยทาง สปป.ลาว มีความประสงค์ขอทำบันทึกช่วยจำ MOU ระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประเทศไทย และกรมศาสนา ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ สปป.ลาว ในโครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้นำศาสนา ที่ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือกันโดยตลอด รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนแนวทางการคุ้มครองพระพุทธศาสนา การจัดการศาสนสมบัติ กองทุนสำหรับพระสงฆ์ หลักสูตรพระธรรมทูตทั้งในและต่างประเทศ การจัดการศึกษาพระสงฆ์ และการศึกษาดูงานสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารกรมศาสนา ศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ สปป.ลาว ในวันนี้ ซึ่งทั้งไทยและ สปป.ลาว มีการประสานความร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นในการร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ตามที่ได้มีโครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้นำศาสนามาตั้งแต่ปี 2553 ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งสองประเทศจะได้สานต่อความร่วมมืออันดีนี้ต่อไป

“เราทั้งสองประเทศถือเป็นบ้านพี่เมืองน้องที่มีความสนิทสนมในทุกด้าน มีความคล้ายคลึงกันด้านขนบธรรมเนียม ประเพณี รวมถึงการนับถือศาสนา ซึ่งศาสนาพุทธถือเป็นศาสนาหลักของประเทศไทย หวังว่าการดำเนินงานตามการตกลงบันทึกช่วยจำระหว่างทั้งสองประเทศ การร่วมหารือและศึกษาดูงานในประเทศไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการสนองงานคณะสงฆ์ จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ในการร่วมมือกันปกปักรักษาพระพุทธศาสนาได้ และมีส่วนช่วยในการ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ทางด้านรองประธานศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ และคณะองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชนลาว (สปป.ลาว) กล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ให้การสนับสนุน สปป.ลาวมาโดยดีตลอดมา และชื่นชมพุทธศาสนิกชนของประเทศไทยที่ให้ความเคารพนับถือพุทธศาสนา ช่วยกันส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้าสร้างความเหลื่อมใสศรัทธา หวังให้ประชาชนทั้งสองประเทศใช้ศาสนาเป็นสื่อกลางยึดเหนี่ยวจิตใจ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในฐานะบ้านพี่เมืองน้องตลอดไป

Leave a Reply