วันที่  5 ต.ค. 68 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ หอประชุมพุทธมณฑล สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม  นางอุดมพร เอกเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนใหม่ ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อมอบนโยบายการทำงานแก่คณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  โดยเนื้อหาการมอบนโยบายเพื่อการปฏิรูปครั้งใหญ่ภายในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยได้กล่าวถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขวิกฤตความศรัทธาและภาพลักษณ์องค์กรที่ถูกมองว่า ล้าสมัย และ ขาดความโปร่งใส โดยได้เน้นย้ำถึงการปรับปรุงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติใน 3  ด้านหลัก ได้แก่ หนึ่ง  กระบวนการทำงาน ซึ่งรวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้เพื่อสร้างฐานข้อมูลที่ทันสมัยและโปร่งใส  สอง การปรับโครงสร้างองค์กรและบุคลากร เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่ซับซ้อนขึ้น การจัดสรรคนให้ตรงกับงาน และ การปรับบทบาทหน้าที่  สาม ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทำงานในเชิงรุก ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และกำกับดูแลทรัพยากรทางศาสนาอย่างเข้มงวดและซื่อสัตย์ เพื่อฟื้นฟูความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ

นางอุดมพร เอกเอี่ยม ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า ภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยังคงเหมือน เดิมคือ ยังยึดมั่นในการพิทักษ์และทะนุพระพุทธศาสนา  สนองงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะองค์อุปถัมภกพระพุทธศาสนา แล้ว ก็เกื้อหนุน มหาเถรสมาคม แต่ด้วยวิกฤตต่าง ๆ ที่ เกิดขึ้นมันทำให้เราต้องปรับปรับ ที่บอกปรับหลาย ๆ ด้าน ปรับทั้งองค์กรไม่ ว่า จะ ป็น บทบาท กระบวน หรือโครงสร้าง

“ปัจจุบันสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีอัตรากำลังส่วนใหญ่ เป็นนักวิชาการศาสนา ขาดอัตรากำลังเฉพาะด้านอย่าง เช่น ด้าน ไอที นิติกร นักวิชาการเงิน การบัญชี ซึ่งก็ไม่เข้าใจ งงมาก ว่า ทำไม มี แต่ นักวิชาการศาสนา ทั้ง ๆ ที่ เรา เป็น ส่วนราชการทุก สิ่งทุก อย่างเรา ทำตาม ระบบ ระเบียบ ราชการ ทั้งสิ้นเลย แต่ไม่มี พวกนักบัญชี มีก็น้อยมาก การเงิน การบัญชีน้อยมาก นักคอมพิวเตอร์ ไม่มี นักกฎหมายน้อยมาก..,”

สำหรับนางอุดมพร เอกเอี่ยม ผอ.สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติคนใหม่ เดิมดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม  2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง โยกมาให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แทน นายอินทพร จั่นเอี่ยม ที่เกษียณอายุราชการ

ภาพ..เพจสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ