เช้านี้ชาวพุทธบุกสภา – บ่ายยื่นฎีกา จับตา!! กลุ่มฉะเชิงเทรา เตรียมแฉเส้นทางเงินใช้วิ่งเต้นให้ได้มาเจ้าคณะจังหวัด

วันที่ 7 ต.ค. 64  เช้านี้ผู้สื่อข่าว “thebuddh” ได้รับการยืนยันจากกลุ่มชาวพุทธประกอบด้วยจังหวัดปทุมธานี,กาฬสินธุ์ และจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าจะได้ทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ในเวลา 10.00 น. เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมและให้ตรวจสอบขบวนการถอดถอนพระธรรมรัตนาภรณ์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี,พระเทพสารเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) และ รวมทั้ง พระราชปริยัติสุนทร วัดโสธรวรารามวรวิหาร อดีตเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์และระเบียบมหาเถรสมาคมหรือไม่

ต่อจากนั้นในเวลา 12.45 น. จะเดินทางไปยังพระราชวังอัมพรสถาน เพื่อยื่นฏีกาให้กับพระบาทสมเด็จพระวชิรกล้าเจ้าอยู่หัว ผ่านสำนักงานพระราชวังเป็นลำดับสืบต่อไป

บางส่วนอาจจะเดินทางไปวัดหงษ์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร  ซึ่งเป็นสถานที่พำนักชอง พระธรรมวชิรเมธี เจ้าคณะภาค 1 เพื่อยื่นหนังสือด้วย

“แหล่งข่าว” คณะกรรมาธิการศาสนา ฯ คนหนึ่งกล่าวว่า พรุ่งนี้นอกจากชาวพุทธจากจังหวัดต่าง ๆ มากันแล้ว อาจจะมีจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มาร่วมด้วยเนื่องด้วยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พระราชปริยัติเวที หรือ “เจ้าคุณเจือ” ก็ถยิ่งกว่าปลดเหมือนคนถูก “สมรสซ้อน” คือ อ้าง “พระราชดำริ” แต่งตั้งโดยที่เจ้าคุณเจือยังอยู่ในตำแหน่งอยู่เลย ตอนนี้คณะสงฆ์นครศรีธรรมราช ไม่รู้จะฟังใคร ทำกันแบบมั่ว ๆ แบบนี้คณะสงฆ์ปั่นป่วนไปหมด

 “ที่ที่น่าจับตาคือตัวแทนชาวพุทธจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในจังหวัด จะเดินทางมาร่วมยื่นหนังสือด้วย ท่านจะเปิดเผยขบวนการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้มาตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งท่านบอกระบุว่าใช้เงินหลายสิบล้านบาท..”

ในขณะที่ “แหล่งข่าว” ท่านหนึ่งซึ่งเคยทำงานในการประชุมมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า เท่าที่ทราบตอนนี้สำนักงานพระพุทธศาสนายังไม่หยุดที่จะพิมพ์รายชื่อเจ้าคณะจังหวัดที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ ทั้ง ๆ ที่เรื่องยังเป็นปัญหาอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และรายชื่อเหล่านี้แม้จะ “ผ่านมติ” แล้ว แต่ยังต้องมีขั้นตอนต่อไป คือ มหาเถรสมาคมยังต้อง “รับรอง” อีกชั้นหนึ่ง ตอนนี้ แม้จะผ่านมติมหาเถรสมาคมแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการรับรอง เหตุไฉน สำนักงานพุทธ ฯจึงเร่งรีบทำ มันส่อพิรุธมากมาย ทำแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่ง อาจพากรรมการมหาเถรสมาคมที่ร่วมลงมติ เสี่ยงต้องขึ้นศาล ติดคุกด้วย

“โดยปกติวาระการประชุม มส. มันจะมีวาระปกติและวาระ จร วาระปกติเป็นหนังสือสีเหลือง มีหมายเลขลงชัดเจน คราวนี้ที่อ้างว่าเป็น วาระจร ไม่น่าจะใช่ เพราะมีหมายเลขลง วาระจร โดยปกติเจ้าคณะใหญ่นั่นแหละจะเป็นถือเข้ามา แล้วยืนให้สำนักงานพุทธ ฯในฐานะนำเข้าเป็นระเบียบวาระกันประชุม แต่ไม่ต้องมีหมายเลขสลักดังที่ปรากฏวาระกันประชุมคราวนี้  ขบวนการมันผิดเพี้ยน การจะตั้งจะถอดมันต้องผ่านเจ้าคณะภาค เจ้าคณะหนใหญ่ แต่นี้ระบบมันพังไปหมด

  และเมื่อเรื่องนี้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ท่านยืนยันแล้วว่า คำสั่งปลด 3 เจ้าคณะจังหวัด มส.ไม่ได้เป็นผู้เสนอ และท่านเองก็ไม่ได้ทราบเรื่องมาก่อนเช่นกัน มันชัดเจนแล้ว แปลว่า ต้นตอที่ชาวพุทธต้องไปถามหรือนักข่าวต้องไปหาคำตอบคือ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่า ใครเป็นคนเสนอเข้ามาให้สำนักงานพุทธ ฯ จัดพิมพ์เป็นวาระปกติเสนอ มส. แบบข้ามหัวสมเด็จพระสังฆราช หักหน้ามหาเถรสมาคมแบบนี้..ซึ่งมันผิดเพี้ยน และเสี่ยงนำท่านไปติดคุก.”

Leave a Reply