เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย จังหวัดสกลนคร ดร.นิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในกรณีคืนสิทธิ์ให้พระสงฆ์มีสิทธิเลือกตั้งนี้ หากย้อนไปดูรัฐธรรมนูญได้เขียนผิดตั้งแต่ทีแรกแล้ว กฎหมายเขียนขัดแย้งกันเอง กฎมหาเถระสมาคมเขียนขัดกับ มาตรา 27 มาตรา 31 และมาตรา 42 ของรัฐธรรมนูญซึ่งระบุว่า คนไทยมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน แต่มาตรา 98 (1) พระ สามเณร นักพรต นักบวช แม่ชีไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งขัดกับปฏิญาณสากลของ UN ข้อที่ 1-2 ที่ระบุว่าทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน
ดร.นิยม กล่าวต่อว่า “พระก็คือคน “วันนี้สิทธิหลายอย่างของพระหายไป เช่น การเกณฑ์ทหารพระก็ไม่ได้รับข้อยกเว้น ต้องไปจับใบดำใบแดงเหมือนคนทั่วไป ซึ่งสมัยที่ตนบวชเป็นพระก็เคยต้องไปเหมือนกัน แต่ว่าตนจับได้ใบดำเลยไม่ต้องสึกไปเป็นทหาร แล้วทำไมถึงจะไม่ให้พระมีสิทธิ์เลือกตั้งเหมือนคนธรรมดาทั่วไปมิได้ เพราะถ้าหากกระทำผิดก็ต้องได้รับโทษโดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน
“หลายประเทศในเอเชียและยุโรป พระมีสิทธิเลือกตั้ง เช่น เมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนาม ลาว และอีกหลายประเทศ รวมถึงประเทศที่เคร่งครัดพระธรรมวินัยกว่านี้ ก็ยังให้พระมีสิทธิเลือกตั้ง บางประเทศพระสึกออกมาแล้ว มาส่งสมัครเป็น ส.ส. ส.ว. หรือประธานธิบดีก็ได้ แล้วทำไมจึงต้องออกกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิ์พระเหล่านั้น” ดร.นิยม กล่าวและว่า
ถึงเวลาที่จะต้องปฏิรูปกฎหมาย ในการประชุมพรรคเพื่อไทย ตนจะเสนอแนวคิดต่อพรรคให้พระสงฆ์มีบทบาทมากขึ้น มีสิทธิ์ มีเสียงที่จะพูด ไม่ให้มีกฎหมายปิดปากพระอีกต่อไป ตนยืนยันจะต้องหาทางคืนสิทธิ์คืนความเป็นมนุษย์ให้แก่พระสงฆ์ ที่มีกว่า 250,000 รูป ให้มีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมเฉกเช่นคนไทยทั่วไป
Leave a Reply