เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ดร.นิยม เวชกามา ส.ส. จังหวัดสกลนคร พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามคำถามถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีมติแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหลวง จำนวน 50 รูป ใช้หลักเกณฑ์ใดมาตัดสินแต่งตั้ง เนื่องจากตนเป็นห่วงพระพุทธศาสนาจึงได้ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ประยุทธ ว่าก่อนที่นายกฯ จะนำเสนอชื่อเจ้าอาวาสวัดหลวงให้สมเด็จพระสังฆราชมีพระลิขิตนำความกราบบังคมทูลนั้น ได้ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างละเอียดรอบคอบแล้วหรือไม่ เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้
“นอกจากนั้น การจะย้ายพระสังฆาธิการจากวัดหนึ่ง ให้ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงอีกวัดหนึ่ง ทั้งๆ ที่วัดนั้นๆ มีพระที่มีความรู้ความสามารถ มีวัตรปฏิบัติเป็นที่ยอมรับของพระภิกษุสามเณรอุบาสกอุบาสิกาอยู่แล้ว การกระทำเช่นนี้ ก่อให้เกิดความแตกแยกร้าวฉานในหมู่พระภิกษุสามเณร เป็นสังฆเภท ทำให้สงฆ์แตกแยกจากกัน เป็นอนันตริยกรรม ดังกรณีที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุต) จนถึงวันนี้ ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ ทั้งที่มีตัวอย่างเลวร้ายอยู่แล้ว แต่ยังดันทุรังทำผิดซ้ำอีก” ดร.นิยม กล่าวและว่า
พลเอกประยุทธ์รู้บ้างหรือไม่ว่า การจะเป็นเจ้าอาวาสของพระอารามต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น ต้องนึกถึงความผูกพันของญาติโยมกับพระที่เติบโตมาในวัด ซึ่งอุปัชฌาย์อาจารย์บวชให้ สืบต่อกันมาตามลำดับ ไม่ใช่จะโยกย้ายใครไป ใครมา ตามอำเภอใจ ก็ได้ ดังนั้นการจะแต่งตั้งพระสังฆาธิการรูปใด ก็แล้วแต่ให้มาปกครองพระอารามต่างๆ ต้องคำนึงถึงสายใยที่แนบแน่นในความสัมพันธ์ของพระอารามกับชุมชนนั้นๆ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เกินกว่าที่คนอย่างนายกฯประยุทธ์ จะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ลึกซึ้ง หากไม่เคยรู้มาก่อน ก็ขอให้รู้เสียเลยในเวลานี้ และเมื่อรู้แล้วจะมีวิธีการอย่างไรแจ้งให้กรรมการมหาเถรทุกรูป ได้สำเหนียกในเรื่องนี้ ก่อนที่มหาเถรจะเพลี่ยงพล้ำเสียหลัก จนชาวบ้านชาวเมืองหมดศรัทธาต่อมหาเถรไปมากกว่านี้
“เห็นว่า บ้านกับวัดต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงจะทำให้ชุมชนนั้นๆ มีความเข้มแข็ง เป็นภูมิคุ้มกันความมั่นคงแห่งชาติ และความผาสุกของประชาชน แต่วันนี้กลับตาลปัตร การตั้งเจ้าอาวาสโดยไม่คิดถึงหัวอกชาวบ้านที่อุปัฏฐากวัด เป็นการทำลายภูมิคุ้มกันของชาติ สร้างความหวาดระแวงของสังคม นับเป็นสัญญาอันตรายอย่างยิ่งต่อสถาบันหลักของชาติ” ดร.นิยม กล่าวและว่า
หากพระสังฆาธิการที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหลวง จำนวน 50 วัด ตามมติมหาเถรสมาคมที่ผ่านมา ไม่สามารถจะเข้ามารับหน้าที่ได้ หรือรับหน้าที่ไปแล้ว แต่ไม่สามารถจะปฏิบัติงานในหน้าที่ได้ จะด้วยเหตุใดๆ ก็สุดแล้วแต่ เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ (ธรรมยุติ) นายกฯประยุทธ์ ซึ่งเป็นหัวหน้า ฝ่ายบริหารในท่ามกลางการแตกแยกมากที่สุดของวงการคณะสงฆ์ในประวัติศาสตร์ชาติไทย จะแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นนี้ ด้วยวิธีการใด และอย่างไร ก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปมากกว่านี้ หัวหน้ารัฐบาลชุดนี้จะต้องถูกจารึก ในประวัติศาสตร์ชาติไทยว่า เป็นรัฐบาลเดียวที่สร้างความระส่ำระสาย กลายเป็นตราบาปในวงการคณะสงฆ์ไทย ไปอีกนานเท่านาน
Leave a Reply