ปลัดมหาดไทย ปลุกเร้า “Passion” ราชสีห์ผู้จงรักภักดี ผู้บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืนเพื่อประชาชน
Post navigation
Posted in:




นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระบรมราโชบายในการ “แก้ไขในสิ่งผิด” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชน ซึ่งการผลักดันขับเคลื่อนเรื่องการแก้ไขปัญหาสัญชาติ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมีความคืบหน้า เพราะเราให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน เพราะทุกคนคือทรัพยากรของชาติ ซึ่งการจะใช้โอกาสในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติได้ ต้องมาจากการได้รับการรับรองการเป็นบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมาย การเป็นบุคคลที่ถูกต้องยังทำให้ง่ายต่อการติดตาม และหากทำผิดกฎหมายก็สามารถเป็นเหตุให้เพิกถอนสัญชาติได้ รวมถึงเรื่องเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ตลอดจนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เราได้ตั้งกลุ่มคนจิตอาสาหมู่บ้านป้องกันแก้ไขยาเสพติดตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เป็นกองทุนแม่ของแผ่นดินจิตอาสาภาคประชาชน โดยกรมการปกครองและกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกันขับเคลื่อนโดยให้ข้าราชการผู้รับผิดชอบประจำตำบลร่วมกับพัฒนากร ไปช่วยดูแลเยี่ยมเยียน ตรวจตรา พี่น้องประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้เรายังมีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนแม่ของแผ่นดิน บริษัทประชารัฐรักสามัคคี ที่อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งท่านต้องทำให้เกิดกระบวนการพูดคุยกันอย่างสม่ำเสมอ เพราะทั้งหมด คือเครื่องมือในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้เกิดความเข้มแข็งของสังคมไทย ที่พวกเราทุกคนมุ่งมั่นจะทำให้ทุกลมหายใจเป็นลมหายใจแห่งการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน
“ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องใช้ประโยชน์จากแผนที่ลุ่มน้ำควบคู่กับผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชนแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo-Social Map) ในการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมที่ดิน มีระบบฐานข้อมูลอยู่แล้ว สามารถนำไปขับเคลื่อนในพื้นที่ได้ อาทิ การกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ การทำฝายหรือหลุมขนมครก โดยขับเคลื่อนให้บรรจุในแผนของท้องถิ่นเพื่อจะมีงบประมาณพัฒนาแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม เพราะ “ถ้าหากเรามีแหล่งเก็บน้ำในหน้าฝน เราก็จะมีน้ำใช้ในหน้าแล้ง ก็จะเป็นประโยชน์ 2 ต่อ” จึงเป็นหน้าที่ของนายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ภายใต้การขับเคลื่อนของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในการช่วยแก้ไขในสิ่งผิดที่เกิดขึ้น และทำให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งในการทำงาน ทุกคนต้องมี “Passion” แม้ว่าที่ผ่านมาตลอด 132 ปี ของพันธกิจการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข หลายงานได้ทำจนแล้วเสร็จ แต่ยังไม่สำเร็จ ซึ่งพวกเราทุกคนจะต้องรวมพลัง ช่วยกันขับเคลื่อนงานกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า ตามระบบฐานข้อมูล ThaiQM เกือบ 15 ล้านครัวเรือน ของประเทศไทยให้เกิดคำว่า “ความสุข” และความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้หากเราไม่หยุดทำ ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด การรณรงค์สวมใส่ผ้าไทย การทำให้เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ
Leave a Reply