“เพชรวรรต” ฟังเสียงสังฆาธิการอีสาน สรุป “บิ๊กตู่” อยู่ 8 ปีไม่ทำให้วงการพุทธศาสนาเจริญขึ้นเลย

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 เวลา 10.30 น. ที่วัดไพรีพินาศ จังหวัดชัยภูมิ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล อดีตรองประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร และผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ตนและคณะได้เข้ากราบพระราชชัยสิทธิสุนทร เจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ เพื่อรับฟังแนวคิดเห็นในหลากหลายมิติของพระสงฆ์ในพื้นที่

พระราชชัยสิทธิสุนทร เปิดเผยว่า ในกรณีพระสงฆ์ที่อาพาธ จะต้องเข้ารักการรักษาตามโรงพยาบาล โรงพยาบาลจะให้เรียกตามคิว สำหรับคำนำหน้าชื่อพระสงฆ์หากเป็นพระครู เจ้าหน้าที่บางคนเข้าใจว่าเป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่จะจัดสรรห้องพิเศษให้ ส่วนพระราชาคณะในบัตรผู้ป่วยจะใช้คำว่า “พระ” นำหน้าทั้งหมด บางทีถูกส่งไปห้องรวม ซึ่งปะปนกับโยมซึ่งบางทีโยมก็จะรู้สึกผิดมากที่มานอนเสมอพระ

ต่อเวลา 14.30 น. ได้เข้ากราบพระราชภาวนาวชิรคุณ หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต วัดเขาตาเงาะ ตำบลหนองบัวระเหว อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ เพื่อศึกษาเรียนรู้วิชากรรมฐาน หลังจากนั้นเวลา 17.00 น. ที่วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง จ.เพชรบูรณ์ นายเพชรวรรต ได้เข้ากราบ พระศรีพัชโรดม (ลักษณะ กิตฺติญาโณ ป.ธ.9) เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยพระศรีพัชโรดม ได้ให้แนวคิดเรื่องที่ดินวัดควรจัดประโยชน์ให้ได้อย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นประโยชน์แต่นายทุน ควรมีพุทธมณฑลประจำจังหวัดทุกจังหวัด การจัดการเรียนการสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรม หากนำโมเดลการศึกษาจากไต้หวัน มาใช้จะทำให้นักเรียนมีคุณภาพมาก ควรปรับปรุงเรื่องมหาคณิศร การที่พระต้องคดีอาญาไม่ควรจับพระสึกควรมีที่กักขังเฉพาะ ควรมีสภาพุทธ ในสมัยกรมศาสนาในอดีตกลับมาเพื่อให้มีที่หารือและเปลี่ยนกันระหว่างพุทธบริษัท 4 พระสงฆ์ควรมีส่วนให้คำปรึกษาในส่วนฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อเป็นประโยชน์ในฝ่ายที่ดูแลอำนาจหน้าที่ในด้านพุทธศาสนา เช่นการมาเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ เป็นต้น

นายเพชรวรรต กล่าวว่าปัญหาที่ตนและคณะเข้ามารับข้อคิดเห็น ล้วนเป็นปัญหาที่หมักหมมมาเป็นเวลานาน เป็นปัญหาที่ซุกไต้ฝุ่น ตลอดเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินกว่า 8 ปีไม่ได้สนับสนุนพระสงฆ์ ไม่มีการอุปถัมภ์ ค้ำชูพระพุทธศาสนา อย่างเป็นรูปธรรมเลย มีแต่หาคดีให้พระ ตีข่าวตีปี๊ปให้วงการพระสงฆ์เสื่อมเสีย ประชาชนเหินห่างจากวัด หากฝ่ายพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล คงไม่ปล่อยให้ปัญหาเยอะมากขนาดนี้ คงไม่มี ข่าวความเสื่อมเสียในหมู่ญาติโยมที่ไปติดในมนต์ดำเช่นกรณีของท้าวแชร์ แอม ไซยาไนด์

Leave a Reply