“ดร.มหานิยม” ชี้แจงพุทธศาสนิกชน-สื่อ ปมผลักดันตั้ง “ธนาคารพุทธ” ร่างเป็นพ.ร.บ.เสร็จแล้ว แต่ “บิ๊กตู่” ไม่ยอมรับรอง

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2566 ดร.นิยม เวชากามา (ดอกเตอร์ด้านพระพุทธศาสนา) ผู้สมัครหมายเลข ส.ส.หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย เขต 2 ได้ออกปราศรัยหาเสียง 11 หมู่บ้าน ตำบลเหล่าโพนค้อ อำเภอโคกศรีสุพพรณ จังหวัดสกลนคร โค้งสุดท้ายปักธงเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ต่อเนื่องนั้น ได้มีพระและชาวบ้านที่เป็นพุทธศาสนิกชนต่าง เข้ามาถามถึงความคืบหน้า “การจัดตั้งธนาคารพุทธ” หวังเป็นที่พึงของคนจน

ดร.นิยม ในฐานะอดีตรองประธานคณะทำงานดำเนินการพิจารณางบประมาณเพื่อจัดตั้งธนาคาพุทธศาสนา จึงขอชี้แจ้งต่อสื่อมวลชน พุทธศานิกชนทั้งหลายให้ทราบทั่วกันว่า จากสมัยประชุมสภาครั้งที่แล้ว คณะทำงานดำเนินการพิจารณางบประมาณ เพื่อจัดตั้งธนาคาพุทธศาสนาโดยมีนายไชยา พรหมา เป็นประธานคณะทำงานฯ พร้อมด้วยหน่วยงานสำนักงานกฤษฎีกา,ธนาคารแห่งประเทศไทย,กระทรวงการคลัง,สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมทั้งนักวิชาการ ตัวแทนบุคคลที่ทำงานเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาและตัวแทนหน่วยงานที่ปกป้องพระพุทธศาสนา สื่อมวลชนตัวแทนพุทธศานิกชน ได้มาให้ข้อมูลประชุมแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพื่อแก้ไขร่างพ.ร.บ.ธนาคารพุทธศาสนา จากร่างพ.ร.บ.ธนาคารพุทธศาสนาที่ก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎรได้ส่งเรื่องไปให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาแล้ว “ตีตก” ไม่เห็นชอบ นั้น

ก่อนที่สมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 จะหมดวาระลงในวันที่ 23 มีนาคม 2566 คณะทำงานดำเนินการฯ ได้ดำเนินการยกร่างพ.ร.บ.ธนาคารพุทธศาสนาแล้วเสร็จ และนำเสนอกลับไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบและรับรอง แต่ไม่ได้รับการรับรองแต่อย่างใด เรื่องนี้ผมจึงของชี้แจงว่าคณะทำงานฯได้ทำประชาพิจารณ์ เปรียบเทียบ พิจารณากันอย่างถี่ถ้วนได้ทำร่างพ.ร.บ.การจัดตั้งธนาคารพุทธศาสนาเสร็จเรียบร้อย แต่เมื่อส่งไปครั้งที่2 อย่างไรพลเอกประยุทธ์ ก็ไม่รับรองให้ โดยมีหนังสือแจ้งมาจากสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ไม่สามารถรับร้องให้เพราะเป็นพ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับเงิน

ดร.มหานิยม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามหากการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย หมายเลข 29 หากได้จัดตั้งเป็นรัฐบาล หรือให้ผมกลับไปเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ผมก็จะติดตามเรื่องการจัดตั้งธนาคารพุทธศาสนา ต่อไป เพราะผมว่าแนวคิดธนาคารพุทธมีความสอดคล้องกับนโยบาลของพรรคที่มีการให้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุเกิน 16 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะการจัดตั้งธนาคารพุทธเป็นการเปิดโอกาสให้รากหญ้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนหมุนเวียน ด้วย

Leave a Reply