ฟังคำสัมภาษณ์ การส่งสัญญาณของ “พิชิต ชื่นบาน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำนองว่า “ยุคตน!! คุมสำนักงานพุทธ สำนักงานพุทธต้องกล้าหาญ ต้องชี้ผิดชี้ถูก กรณีเชื่อมจิต เชื่อมได้หรือไม่ได้” หลังจากก่อนหน้านี้ “เสียมวย” ดันปัด “เชื่อมจิต” ให้พ้นตัว หลังจาก “มูลนิธิทนายกองทัพธรรม” พร้อมเครือข่ายร้องเรียนให้ตรวจสอบ อ้างว่า “รัฐธรรมนูญไทยคุ้มครองความเชื่อ” จนเกิดกระแสไม่พอใจในหมู่ประชาชน พร้อมกับตั้งคำถามว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีไว้ทำไม!!
จนต้อง “แก้เกม” ดึง “บุญเชิด กิตติธรางกูร” ผอ.พุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานีดีกรี ป.ธ. 9 ศิษย์เก่าวัดชนะสงคราม อดีตผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม อดีตรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หลาย ผอ.พศ. ไม่ได้ใช้งานมานาน มาเป็น “ประธาน” คุมเกมชี้แจงเรื่องนี้
เรื่องนี้ “ เสียรังวัด” ไม่เฉพาะสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติเท่านั้น ลามถึง “พิชิต ชื่นบาน” หลายสื่อเสนอข่าวด้วยว่า พิชิต แจงสำนักพุทธฯ ไม่มีอำนาจตรวจสอบ “เด็กเชื่อมจิต”
“ผู้เขียน” เคยเตือน “แจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ต้นแล้วว่า อย่าเชื่อ!! ข้าราชการเสียทุกเรื่อง มันต้องมี “พระคุณเจ้า -เครือข่าย” ชาวพุทธไว้เป็นที่ปรึกษาบ้าง สุดท้าย “แจ๋น” ก็โบกมือลา!!
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือ “พศ.” หลายปีมานี้ ชาวพุทธ “ผิดหวัง” กับบทบาท บนความคาดหวังเป็นอย่างมาก ไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน จนเกิดกระแสเรียกร้องว่า.ต่อไปใครจะมาเป็น พอ.พศ..ต้องให้ “มส.” รับรองก่อนดีหรือไม่!!
ทั้งกรณีคดี “เงินทอนวัด” เป็นอุปสรรคขนานใหญ่ที่ก่อให้เกิด “รอยร้าว” และความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ระหว่างคณะสงฆ์และสำนักงานพุทธ ฯ อันนี้ยังไม่นับรวม “ความขัดแย้ง” จนนำไปสู่การฟ้องร้อง ระหว่างคนของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ด้วยกันเอง
เป็นสำนักงานพุทธ ฯ ดูแลกิจพระพุทธศาสนา สนองงานคณะสงฆ์ แต่คนที่รู้เรื่องหลักพระพุทธศาสนา “แทบ” หาไม่เจอ คนพอรู้เรื่องบ้าง “บางคน” ก็นั่งตบยุงเช่น “สมบัติ พิมพ์สอน” พักหลัง ๆ ไม่ค่อยปรากฏงานสำคัญอะไรเลย ส่วน “โฆษกพศ.” เจอก็คืองานแถลง มติมหาเถรสมาคม เท่านั่น ซึ่งก็แถลงข่าวตาม “สคลิปต์” ส่วน “ฝ่ายประชาสัมพันธ์” นอกจากโพสต์เฟชบุ๊คแล้ว ไม่เคยได้ “รับข่าวสาร” เป็นชิ้นเป็นอันอะไร ไม่เคยเห็น “ฝ่ายประชาสัมพันธ์” ทักทายสื่อมวลชน ออกเยี่ยมสื่อตามสถานีหรือสำนักข่าวต่าง ๆ หากจะว่าไปตรงนี้แพ้ “วัดพระธรรมกาย” ด้วยซ้ำไป ออกเยี่ยมสื่อในเทศกาลสำคัญ ๆ และทั้ง ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เชิญสื่อไปร่วมงาน หรือหากมีก็ “น้อยมาก” ไม่เหมือน “กลุ่มไลน์” ของ กระทรวงวัฒนธรรมหรือกลุ่มไลน์ของกรมการศาสนา มีข่าวให้สื่อมวลชนอย่างน้อย 2-3 ข่าวต่อวัน ทั้งข่าวรัฐมนตรี ปลัด และอธิบดี หรือผู้บริหารระดับสูง
แม้กระทั้ง “ปลัดเก่ง” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีข่าวตามหน้าสื่อทุกวัน เพราะ เวลาลงพื้นที่หรือออกงาน “ปลัดเก่ง” มีเจ้าหน้าที่เขียนข่าว มีคนถ่ายภาพ เมื่อเขียนเสร็จจะมีการ “ปรู๊ฟ” ตรวจสอบทั้งเรื่องภาพและข้อความก่อน แล้ว “ปลัดเก่ง” จึงส่งให้กับสื่อต่าง ๆ ทั้งเช้าก่อนเที่ยงและเย็นก่้อนข่าวค่ำ
“ผู้เขียน” เคยถาม “เจ้าหน้าที่ พศ.” ว่าทำไมไม่ทำแบบกระทรวงมหาดไทยหรือกระทรวงวัฒนธรรม “เจ้าหน้าที่” บอก “ไม่มีคนเขียน” แบบนี้จะมี “โฆษกและประชาสัมพันธ์” ไว้ทำไม ฝากถามถึง “อินทพร จั่นเอี่ยม” ผอ.พศ.ด้วย และทางที่ดี ควรโล๊ะทั้งคณะ “เปลี่ยนทั้งชุด” หาคนมีความรู้และเป็นงานข่าวมาทำงาน
ความจริง..ไม่อยากต่อว่าให้เสีย “บรรยากาศ” ในช่วงเทศกาลวันวิสาขบูชาโลก เพราะรู้ว่าปีนี้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติมีความตั้งใจดี จัดงานแปลกกว่าทุกปี คือ มีรถบุปผชาติ 4 คัน มีขบวนธรรมยาตราจำนวนทั้งพระและเด็กร่วม 1 พันรูป/คน และร่วมจัดที่ UN ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่ถวายงบประมาณมาถึง 3.5 ล้านบาท แต่เมื่อ “พิชิต ชื่นบาน” โยนลูกก็ต้องพูดให้หาย “หงุดหงิด” ต้องพูดเพื่อ “กระตุก” จิตสำนึกกันบ้าง
อันนี้ยังไม่ “เล่าเรื่อง” วันก่อนประชุมสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ประชุมร่วมกับคณะสงฆ์ การจัดงานวิ สาขบูชาโลก มีเสียง “พระคุณเจ้า” บ่นมาว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธ ฯ “ไม่รู้ธรรมเนียม” การประชุม เพราะพูดโดยที่ประธานยังไม่เปิดงานหรืออนุญาต หรือแม้กระทั้ง “คำสั่งแต่งตั้ง” คณะทำงานวันวิสาขบูชาโลก คนมีความรู้ คนมีปัญญาอาจจะไม่คิด แต่ “คนความรู้น้อย” ไม่รู้เรื่องระเบียบราชการ แบบผู้เขียน แอบคิด เพราะคำสั่งนี้ อาจคิดได้ว่า “ด้อยค่า” สมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากพระองค์ตั้งอยู่ในฐานะ “สังฆราชา” และ “สังฆบิดร” ไม่เฉพาะของคณะสงฆ์ทั้งมหานิกาย ธรรมยุต มหายาน ของ “ชาวพุทธ” ทั้งมวลด้วย ไม่ควรให้พระองค์ “ถูกคำสั่ง” โดยฆราวาสให้เป็นคณะจัดกิจกรรมจัดงานแม้ที่ “ปรึกษา” ก็ตามที
Leave a Reply