วันที่ 8 กรกฏาคม 2567 วานนี้  ณ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร คณะสงฆ์มหายานจากประเทศจีนและสิงคโปร์ นำโดยพระอาจารย์ฝ่าเจ้า (Shi Fa Zhao) หรือ พระอาจารย์จีนราชธรรมานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) ประเทศสิงคโปร์ พระอาจารย์ซื่อซือกวง (Shi Xu Guang) เจ้าอาวาสวัดกวางจี เมืองหยางโจว (Guangji Temple, Yangzhou) พระอาจารย์ซื่อโถวฮุ่ย (Shi Tuo Hui) เจ้าอาวาสวัดเซี่ยผิง เมืองหรุยอัน (Xie Ping Temple, Rui An) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน พาคณะลูกศิษย์ชาวจีนและสิงคโปร์กว่า 100 คน เดินทางมาประเทศไทย เพื่อประกอบพิธีทำบุญและถวายมุทิตาแสดงความยินดีแก่พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) ในโอกาสพ้นมลทิน และรับโปรดเกล้า ฯ คืนสมณศักดิ์

พระอาจารย์ฝ่าเจ้าได้กล่าวแสดงความยินดีกับพระพรหมสิทธิ โดยเน้นย้ำถึงคุณงามความดีของท่าน ตลอดระยะเวลา 40 กว่าปี ที่ได้อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา ท่านเปรียบพระพรหมสิทธิว่าเป็นต้นแบบของพระภิกษุผู้ทรงคุณธรรม เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะคณะสงฆ์ฝ่ายมหายาน ท่านแสดงออกถึงหลักสาราณียธรรมระหว่างคณะสงฆ์ทั้งสองฝ่ายได้อย่างกลมกลืนและอบอุ่น เป็นกันเอง เป็นที่บันเทิงใจสำหรับผู้ได้มาสัมผัส

โดยงานทำบุญถวายมุทิตาในครั้งนี้ พระอาจารย์ฝ่าเจ้าได้ปรารภไว้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า หากพระพรหมสิทธิได้รับคืนความเป็นธรรมเมื่อไร จะนำคณะสงฆ์มหายานและศิษย์จากสิงคโปร์มาจัดงานทำบุญถวายมุทิตาแก่พระพรหมสิทธิ  ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงความยินดีกับพระพรหมสิทธิแล้ว การทำบุญในวันนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างคณะสงฆ์ไทยและคณะสงฆ์มหายาน ที่สามารถเชื่อมโยงศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทย ชาวจีน และชาวสิงคโปร์ให้พร้อมใจกันมาร่วมกันทำความดี ผ่านสายใยแห่งศรัทธาและความเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนา เป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความปีติยินดี งดงามและน่าประทับใจอย่างยิ่ง..

สำหรับศาสนกิจของ พระอาจารย์จีนราชธรรมานุสิฐ ในวันจันทร์ที่ 8  กรกฎาคม 2567  เวลา 09.09  น. จะเดินทางไปเป็นประธานพิธีถวายทุนการศึกษาแก่นิสิต มจร ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค วิทยาเขตและวิทยาลัยสงฆ์ จำนวน 40 แห่ง ทั้งระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา โดยแยกเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี 333 ทุน ๆ ละ 3,000 บาท ระดับปริญญาโท 100 ทุน ๆ ละ 5,000 บาท และ ระดับปริญญาเอก 50  ทุน ๆ ละ 10,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 2,000,000  บาท (สองล้านบาทถ้วน)นี้ ณ หอประชุม มวก ๔๘ พรรษา มจร พระนครศรีอยุธยาเป็นลำดับสืบต่อไป..”