วันที่ 29 กันยายน 2567 วานนี้เวลา 08.30 -17.00 น. ณ โรงแรมศรีลำดวน อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พระพรหมวชิโรดม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เปิดงานสัมมนา “ความมั่นคงของพระพุทธศาสนากับการขออนุญาตใช้ที่ดินของทางราชการเพื่อสร้างวัด” จัดโดยคณะกรรมาธิการ ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายอนุพงษ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานฆราวาส ซึ่งมี ดร.นิยม เวชกามา ผู้แทนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวีรพล จิตสัมฤทธิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการ นายบุญเชิด กิตติธรางกุล รองผู้อำนวยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมสัมมนา โดยมีพระภิกษุสงฆ์ และคฤหัสถ์เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 300 คน
พระพรหมวชิโรดม กล่าวตอนหนึ่งว่า ความมั่นคงของพระพุทธศาสนาประกอบด้วยปัจจัย 4 ประการคือ ศาสนบุคคล ศาสนสถานหรือวัด ศาสนธรรม และศาสนพิธี ใน 4 ประการนี้เรื่องศาสนบุคคล สำคัญที่สุด สร้างวัดสร้างง่าย แต่จะรักษาไว้ให้มั่นคงได้นั่นต้องมีศาสนบุคคล เมื่อสร้างวัดได้แล้วขอให้สร้างศาสนบุคคลด้วย ซึ่งเรื่องการสร้างศาสนบุคคล คือ พระภิกษุสามเณรนี้เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์เรา ที่จะต้องร่วมมือกันให้การศึกษาโดยเฉพาะเรื่องการศึกษาพระบาลี นักธรรม อันเป็นการศึกษาพื้นฐานของพระภิกษุสามเณร ซึ่งเรื่องพวกนี้มันจะเชื่อมโยงกับวัด วัดจะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่เจ้าอาวาสเป็นหลัก ลมหายใจของพระพุทธศาสนาคือ การศึกษา
“บางทีพระเราก็ทำเสีย พัฒนาวัด สร้างกุฎิ โบสถ์ โดยไม่จำเป็น มีพระ 2-3 รูป แต่สร้างกุฎิศาลาใหญ่โต มากมายจนดูแลไม่ไหว และแม้กระทั้งญาติโยม อันนี้ขอเตือนเพราะมีคนร้องเรียนเยอะคือ เรื่องการเป็นไวยาวัจกร เรื่องกรรมการวัด มีไวยาวัจกรหรือกรรมการวัดบางแห่ง เล่นบทเป็นเจ้าอาวาสเอง เข้าทำนองที่ว่า เจ้าอาวาสอยู่บ้าน สมภารอยู่วัด อันนี้ขอเตือนว่า อย่าพึงให้เกิดมี เพราะไม่ส่งผลดีต่อพระพุทธศาสนา ทีนี้เรื่องวัดและที่พักสงฆ์ ที่สัมมนากันในวันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่คณะสงฆ์ในทีนี้ต้องรับฟังและรับรู้ มีอะไรให้ซักถามได้เต็มที่ เพราะวิทยากรที่มาวันนี้ มีทั้งสำนักงานพุทธ ตัวแทนสำนักงานที่ดินแห่งชาติ กรมที่ดิน กรมป่าไม้ เรื่องที่พักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ดินรัฐเป็นเรื่องสำคัญ สำคัญจนมหาเถรสมาคมต้องมีมติตั้งให้มีรองเจ้าคณะจังหวัดดูแลเรื่องที่พักสงฆ์เป็นการเฉพาะ อย่างจังหวัดศรีสะเกษนี้ มีวัดทั้งหมด 1,472 แห่ง และมีที่พักสงฆ์ถึง 329 แห่งที่ยังไม่สถานเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย..”
ด้าน ดร.นิยม เวชกามา ตัวแทนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายชูศักดิ์ ศิรินิล) กล่าวว่า เรื่องพระพุทธศาสนา วัด ที่พักสงฆ์เป็นเรื่องสำคัญที่คณะสงฆ์ รัฐบาล ร่วมทั้งหน่วยงานภาครัฐจะต้องร่วมกันหาทางออก ข้อมูลจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่าที่พักสงฆ์ยังไม่มีกฎหมายรองรับมีถึง 11,292 แห่ง อันนี้ยังไม่รวมวัด สำนักสงฆ์ที่ยังไม่มีโฉนด ซึ่งการไม่มีโฉนดนี้มันไปเชื่อมโยงกับเวลาท่านจะขอขึ้นทะเบียนเป็นวัดหรือขอวิสุงคามสีมาตามกฎหมายใหม่ของคณะสงฆ์มันจะขอไม่ได้ มันจึงต้อ’ร่วมกันแก้และหาทางออก ซึ่งที่ผ่านรัฐบาลชุด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็มีความพยามยามจะชงให้คณะรัฐมนตรีมีมติแก้ไขปัญหานี้ แต่มีเหตุต้องเปลี่ยนรัฐบาลชุดใหม่
“ผมในฐานะเป็นชาวพุทธและเป็นมหาเป็นคนวัด สังกัดพรรคเพื่อไทย ตลอด 1 ปี พรรคเพื่อไทย อาจทำงานบกพร่องเรื่องการดูแลกิจการคณะสงฆ์ ต้องกราบขออภัย ต่อจากนี้พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับปากว่า เรื่องที่วัด ที่พักสงฆ์ จะรื้อขึ้นมาใหม่ รวมทั้ง เรื่อง พรบ.คุ้มครองและส่งเสริมพระพุทธศาสนา จะปัดฝุ่นขึ้นมาใหม่ เรื่อง นิตยภัยหรือเงินเดือนพระ เรื่องการดูและพระวินยาธิการ หรือแม้กระทั้งเรื่องการศึกษาของคณะสงฆ์ รัฐบาลจะดูแลเต็มที่..”
Leave a Reply