แม่ชี!! กลุ่มสตรีผู้น่าสงสาร

หลังมีข่าวว่ามี “กลุ่มแม่ชี” ยอมเสี่ยงถูกพระด่า ไปเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องสิทธิด้านต่าง ๆ อันพึงมีพึงได้ต่อ คณะกรรมาธิการศาสนาและศิลปะวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะคนไทยกลุ่มหนึ่งที่รัฐบาลและมหาเถรสมาคม “ต้องดูแล” ทั้งเรื่องสวัสดิการการรักษาพยาบาล ค่ารถเมล์ รวมแม้กระทั่ง “นิตยภัต” ค่าอาหารที่ผู้เรียบจบประโยค 9 พึงได้ ซึ่งเท่าที่ฟังมีแม่ชีจบการศึกษาแล้วประมาณ 24 ท่าน

กลุ่มนักบวชแม่ชีเหมือนกลุ่มสตรีที่ไม่เฉพาะสังคมไทยเท่านั้นที่ลืม แม้แต่ “คณะสงฆ์” ผู้พร่ำสอนให้ชาวบ้านมีความ “เมตตา-กรุณา” ต่อเพื่อนมนุษย์ก็อาจ “ลืมนึกถึง” ไปด้วย ทั้ง ๆ ที่อยู่ในวัด รับใช้เจ้าอาวาส คณะสงฆ์มาตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว

“พระผู้ใหญ่” ปัจจุบันหาคนเมตตาสงสารต่อผู้ตกทุกข์ได้ยากยิ่งกว่า “งมเข็ม” ในมหาสมุทร ไม่เหมือนพระผู้ใหญ่ดังในอดีต ยุคนี้พระผู้ใหญ่เราจำนวนมากถูก  “จิตฆราวาส” ครอบงำ มุ่งแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม

เท่าที่ฟังเสียงสะท้อนจากกลุ่มแม่ชีที่มาเรียกร้องความเป็นต่อคณะอนุกรรมาธิการพุทธศาสนา วัดใหญ่ ๆ หลายวัดที่แม่ชีเหล่านี้พึ่งอาศัยอยู่ เมื่อสิ้นเจ้าอาวาสรูปเก่า ๆ ปัจจุบันเจ้าอาวาสรูปใหม่ ๆ มักไม่ค่อยเห็นคุณค่าหรือดูแลกลุ่มแม่ชีเท่าไรนัก

ยกเว้น..ทำครัวและหาเงินทอดกฐินผ้าป่าให้วัด จึงเรียกใช้งาน

ทางของ “สตรี” ยุคนี้ มีคนจำนวนมากที่พอมีเงิน มีการศึกษาและมีพรรคพวกจะเดินทางไปบวช “พระภิกษุณี” ที่ประเทศศรีลังกาและใต้หวัน ไม่ง้อกลุ่ม “ไดโนเสาร์” เฒ่าล้านปีในประเทศไทย

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็ร่วมกับองค์กร “สิทธิสตรี” ต่าง ๆ ต่อสู้กับ “กลุ่มอนุรักษ์นิยม” ในประเทศไทย ไม่เว้นแม้กระทั้งพระภิกษุบางรูปที่ไม่ยอม “สิทธิแห่งการบวช” ของสตรีเหล่านี้

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งดังเช่น “กลุ่มแม่ชี” ยอมก้มหน้ารับใช้พระภิกษุสงฆ์ เจ้าอาวาส ทำทุกอย่างให้ท่านเหล่านี้เห็นใจ ทำทุกอย่างให้คณะสงฆ์ยอมรับ ไม่ว่าจะเข้าโรงครัว ทำความสะอาดวัด หรือบางที เจ้าอาวาสเผลอใช้ “ซักจีวร” ให้ก็มี

“เปรียญสิบ” เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนให้กลุ่มแม่ชีมี “สิทธิ” และ “ศักดิ์ศรี” อย่างน้อยให้รัฐและมหาเถรสมาคมยอมรับว่าเป็น “นักบวช” กลุ่มหนึ่งในพุทธศาสนา

“เปรียญสิบ” เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนให้กลุ่มแม่ชีมี “พระราชบัญญัติ” เป็นของตนเอง หรือหากไม่มี รัฐและมหาเถรสมาคมต้องบัญญัติกฎหมายอะไรก็ได้ที่ให้กลุ่มสตรีเหล่านี้อยู่ในสังคมไทยอย่างมีศักดิ์ศรีและมีสิทธิเทียบเท่ากับสามเณรก็ยังดี

“กลุ่มแม่ชี” หากบริหารจัดการดี ๆ เป็นกลุ่มสตรีที่มีพลัง เป็นกลุ่มสตรีที่มีบทบาทช่วยกิจการพระพุทธศาสนาและกิจการคณะสงฆ์ได้มาก โดยเฉพาะ งานสังคมสงเคราะห์ และงานสาธารณสงเคราะห์

โลกยุคใหม่!! ต้องดึงมวลชนมาเป็นพวก..เราต้องเดินไปด้วยกัน อย่าทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะ “หน่อเนื้อ” เดียวกันอย่าง..แม่ชีพ

……………………………….

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย….“เปรียญสิบ” : [email protected]

Leave a Reply