เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชื่นชมพลังศรัทธาทางพระพุทธศานาของคณะสงฆ์ จำนวน 120 รูป ญาติโยมและคนงาน จำนวน 19 คน รวม 139 ชีวิต เข้าร่วมโครงการธุดงค์ธรรมยาตรา ตามรอยบาทพระศาสดา อินเดีย-เนปาล รุ่นที่ 8 ระหว่างวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 5 เมษายน 2566 ใช้ระยะเวลา 112 วัน ระยะทาง 3,100 กิโลเมตร โดยย้ำว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงออกถึงความเลื่อมใสและความดีงามในพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังได้ศึกษาและนมัสการพุทธสถานที่พระบรมศาสดาทรงประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และเสด็จดับขันธปรินิพพาน เพื่อให้พระสงฆ์ได้ปฏิบัติธุดงควัตร น้อมอุทิศถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
โครงการนี้ เป็นโครงการที่จัดโดยกองงานพระธรรมทูต อินเดีย-เนปาล ซึ่งพระเดชพระคุณพระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ Ph.D), หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล ,เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นประธานอำนวยการจัดโครงการฯ มอบหมายให้ พระวิเทศวชิรญาณ วิ. (สมพงศ์ ญาณธีโร) เจ้าอาวาสวัดป่าบรมธาตุราชสักการ ,ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ,ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เป็นผู้ดูแลโครงการฯ โดยโครงการนี้เป็นการเดินธุดงค์
ในประเทศไทยจากสำนักปฏิบัติธรรมหุบกระทิง วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถึง วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี และเดินที่ประเทศอินเดีย-เนปาล ซึ่งเป็นดินแดนพุทธภูมิ โดยจะเดินไปยังสังเวชนียสถานทั้ง 4 และสถานที่สำคัญๆ รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 112 วัน ระยะทาง 3,100 กิโลเมตร
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้มีการนำเสนอข่าวที่สร้างความเสื่อมเสียทางพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งที่จริงและไม่จริง จึงขอให้ประชาชนศึกษาข้อเท็จจริงก่อนเชื่อในข่าวที่ได้รับรู้มา ในส่วนของความดีงามทางพระพุทธศาสนามีให้เห็นเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น โครงการธุดงค์ธรรมยาตรา ตามรอยบาทพระศาสดา อินเดีย-เนปาล และโครงการอื่นๆ ที่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้ร่วมแรงร่วมใจจัดทำ เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศานา และให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จึงขอเขิญชวนให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวพุทธร่วมปกป้องพระพุทธศาสนามิให้เกิดความเสื่อมเสียและเสื่อมศรัทธาอีกต่อไป
Leave a Reply