วันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง หลายสมัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีพระเมธีวชิโรดม หรือ ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดังถูกวิจารณ์เรื่องการไปกิจนิมนต์ที่บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยระบุว่า “วันนี้มากับพระครับ

ความจริงจะวิเคราะห์คดีของ ดิไอคอนกรุ๊ฟ ให้อ่านกัน แต่ดูไปดูมา กระแสข่าวตอนนี้ เบนเข็มมาลงที่พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ค่อนข้างเยอะ เลยมาคุยเรื่องนี้กันก่อน

ต้องมีหลักก่อนครับ ว่า พระพุทธองค์มิได้ฝากศาสนาไว้กับพระภิกษุผู้เป็นพุทธสาวกแต่เพียงอย่างเดียว แต่ทรงฝากศาสนาไว้กับพุทธบริษัท 4 มีภิกษุ ,ภิกษุณี ,อุบาสก ,อุบาสิกา
ตามพุทธประวัติกล่าวว่า พญามารได้ขอให้พระพุทธองค์ปรินิพพานหลายครั้งแล้ว แต่พระองค์ยังไม่ปลงอายุสังขาร โดยทรงเห็นว่า พุทธบริษัท 4 ยังไม่เข้มแข็ง ต่อเมื่อพุทธบริษัท 4 มีความเข้มแข็ง เรียนรู้พระธรรมคำสั่งสอนอย่างดี,ปฏิบัติตามคำสอนได้,เผยแผ่คำสอนได้ และหากมีการสอนผิดจากคำสอนของพระองค์ พุทธบริษัท 4 สามารถโต้แย้งแก้ไขให้ถูกต้องได้

ต่อเมื่อพุทธบริษัท 4 มีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว พญามารมาทูลให้พระองค์ปรินิพพานอีกครั้งหนึ่งพระพุทธองค์จึงปลงอายุสังขาร ว่า “ต่อแต่นี้ไปอีก 3 เดือน เราจักเสด็จดับขันธปรินิพพาน”
ขียนมาเพื่อสรุปว่า คำกล่าวของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ต้องฟังให้ครบถ้วนอย่าหยิบประโยคใดประโยคหนึ่งมาอธิบาย และ ต้องดูบรรยากาศของการกล่าวด้วยว่า อยู่ในสถานการณ์ใด บรรยากาศใด ผมเชื่อว่า พระอาจารย์เมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) เป็นพระคุณเจ้าที่ ทำให้พุทธศาสนาเข้มแข็งมากกว่าที่จะทำให้พุทธศาสนาอ่อนแอ

หากท่านเป็นชาวพุทธ พระพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับท่านด้วยครับ แล้วเราทำอะไรเพื่อปกป้องศาสนาบ้างหรือยัง ถ้ายังก็ไม่เป็นไรแต่อย่าย่ำยีครับ

ทะเลาะกันเรื่องอื่นเถอะครับ อย่าเอาศาสนามาเล่นกันเลย
วันนี้ ผมมากับพระครับ อยู่ฝ่ายพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี)

ที่มา มติชน