เจ้าคุณพระ : ผู้สร้างความอบอุ่นใจแก่ “คณะสงฆ์”

เมื่อวานนี้ไปร่วมงานเจริญพระพุทธมนต์แบบรามัญ ให้แด่ “เจ้าคุณพระ” เนื่องในวันที่ 26 มกราคม 2568 นี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของ “เจ้าคุณพระ”  เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี ตามคำชวนของ “เจ้าคุณต่อศักดิ์” พระราชมหาเจติยาภิบาล รักษาเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ หลวงปู่เทียน จ.ปทุมธานี  ซึ่งเป็นศิษย์สำนักวัดอรุณราชวรารามด้วยกัน พร้อมกำชับ “ผู้เขียน” ในฐานะคนไทยเชื้อสายรามัญว่า ให้แต่งกายแบบรามัญไป  การจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในวันเกิดของ “เจ้าคุณพระ” นี้มิใช่แค่วัดโบสถ์หลวงปู่เทียนเท่านั่นที่จัด  หลายวัดก็จัดกิจกรรมเยี่ยงนี้ ทั้งพระอารามหลวง วัดราษฎร์ หรือแม้กระทั้ง “มหาวิทยาลัยสงฆ์” อย่างมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยก็ร่วมกันในวันสำคัญเช่นนี้  กิจกรรมเจริญพระพุทธมนต์จัดเกือบทั่วสังฆมณฑลก็ว่าได้  เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับ  “เจ้าคุณพระ”  เนื่องจากวัตรปฎิบัติที่ผ่านมาของเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี ต้องยอมรับว่าได้สร้างความอุ่นใจและประทับใจให้กับคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก

“เจ้าคุณพระ” เสมือนได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดูแลเรื่องพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์โดยตรง ทั้งในอดีตที่ผ่านมา “เจ้าคุณพระ” ปรากฎภาพการเดินทางไปกราบพระมหาเถระผู้ใหญ่ตามวัดวาอารามต่าง ๆ ไม่เฉพาะในเมืองเท่านั้น ตามป่าเขาเจ้าคุณพระก็ไปหา

ยิ่งเรื่องสมณศักดิ์  “พระสุปฎิปันโน” หลายรูปไม่ได้อยู่ในข่าย ไม่ได้อยู่ในสายตาของ “เจ้าคณะปกครอง” หลายรูปได้รับการโปรดเกล้า ฯ แม้กระทั้งเจ้าตัวก็ยังไม่คิดว่า..จะมีวันนั้น

ทั้งมีภาพ “เจ้าคุณพระ” ปรากฎกายเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกครั้ง เมื่อมีพระภิกษุสงฆ์เข้าไปถวายกรรรมฐานหรือสนทนาธรรมในพระราชวัง

อันนี้ไม่นับรวมที่เจ้าคุณพระมุ่งมั่นอุปถัมภ์ค้ำชูพระภิกษุ -สามเณรผู้เรียนบาลี และทั้งเจ้าคุณพระเอง ก็สนใจศึกษาพระบาลีด้วย

เพื่อยกย่องคุณงามความดีในสิ่งที่ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี ได้ทำได้เกื้อกูลอุปถัมภ์ค้ำชูคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา เป็นปกติธรรมดาที่คณะสงฆ์ พึงปฎิบัติเยี่ยงนี้

“ผู้เขียน” ขอนำบทความ “ริ้วผ้าเหลือง” ของ “เปรียญสิบ” ที่ได้เผยแพร่ไว้เมื่อต้นปี 2564 นำมาเผยแพร่ต่อ เนื่องจากบทความนี้ได้ “ฉายภาพ” สถานการณ์คณะสงฆ์ตอนนั้นหลายเรื่อง ทั้งเรื่องวิกฤติปัญหาเงินทอนวัด ปัญหาวัดพระธรรมกาย ปัญหาวัดและสำนักสงฆ์บางแห่งในป่าถูกรื้อถูกถอน วิทยุสายพระวัดป่าก็ถูกปิด มีพระสายเกจิอาจารย์บางรูปถูกจับสึก

แต่บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งบทบาทของ  “เจ้าคุณพระ” ในห้วงวิกฤติดังกล่าวได้สร้างความ “อุ่นใจ” ให้กับคณะสงฆ์ทั้งประเทศ ติดตามได้จากบทความ ริ้วผ้าเหลือง ในช่วงนั้น  ดังนี้

“เปรียญสิบ” เป็นผู้ยึดมั่นในพระพุทธศาสนาและภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างยิ่งคนหนึ่ง เพราะทั้งสองสถาบันมี “บุญคุณต่อชีวิต”

หากไม่มีสองสถาบันนี้ไม่มี “เปรียญสิบ” ในวันนี้

หลายเดือนมานี้ติดตามความเคลื่อนไหวของ “เจ้าคุณพระ” พลตรีหญิงเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี อย่างใกล้ชิด และแอบภูมิใจ ปลื้มใจทุกครั้ง เมื่อทราบข่าว “เจ้าคุณพระ” ไปกราบเยี่ยมพระเถระผู้ใหญ่

แอบปลื้มใจทุกครั้ง เมื่อเห็นภาพข้าราชบริพารของสำนักพระราชวัง นำภัตตาหาร เครื่องใช้อุปโภค บริโภค ไปถวายให้กับพระภิกษุสามเณร ผู้ที่กำลังศึกษา “พระพุทธพจน์” ทั้งในวัดโมลีโลกยาราม, วัดสามพระยา, วัดเบญจมบพิตร และอีกหลายวัด

หรือแม้แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินี และ ท่านเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี ทรงมีพระราชศรัทธา ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเพลและเชิญชุดเครื่องเขียนพระราชทาน ซึ่งบรรจุไปด้วยสมุดจดบันทึก ปากกาลูกลื่น ปากกาลบคำผิด หน้ากากผ้า และเจลอนามัยสำหรับล้างมือ ให้กับพระภิกษุ-สามเณร “ผู้สอบบาลีสนามหลวง” ในกรุงเทพมหานคร

ทั้งหมดทั้งมวลคือ “การแสดงถึงความใกล้ชิดระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับสถาบันสงฆ์” ในฐานะพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก

หลายปีมานี้..“เปรียญสิบ” แทบไม่เห็นความใกล้ชิดแบบนี้ จนก่อให้เกิดข่าวลือต่าง ๆ มากมาย

เมื่อเห็นสิ่งที่ “ต้องการให้เกิด” เมื่อรับรู้ “สิ่งที่อยากให้รู้” แน่นอน ความปลื้มใจและดีใจ ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ในฐานะอดีตนักบวชเก่า

การปรากฏกายขึ้นของ “เจ้าคุณพระ” ตามอารามต่าง ๆ ที่ “ท่านเจ้าคุณ” ไปกราบนมัสการพร้อมกับถวายสังฆทานให้กับพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งจริยวัตรที่งดงามของเจ้าคุณพระ

“นั่งกราบกับพื้น” ทุกครั้ง ภาพแบบนี้หากยากแล้วในสังคมไทย แทบไม่มีให้เห็น

“เจ้าคุณพระ”..ทำให้สองสถาบันใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

“เจ้าคุณพระ”..ทำให้หน่วยงานที่มุ่งใช้กฎหมายกับพระสงฆ์เริ่ม “อ่อนข้อ” ลง “จากหนักกลายเป็นเบา”

“เจ้าคุณพระ” ทำให้คนอายุรุ่นเปรียญสิบมีความจงรักภักดีต่อสถาบันไม่เสื่อมคลาย

และความจงรักภักดีของเปรียญสิบนี้ ไม่มีผลประโยชน์อื่นใดทั้งสิ้น..ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นด้วย “หัวใจ” ในฐานะพสกนิกรภายใต้ “ร่มพระบารมี” ของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ และ

“เปรียญสิบ” ก็เชื่อว่า จริยวัตรของเจ้าคุณพระที่เยี่ยมเยียนเข้ากราบสักการะพระสงฆ์ในลักษณะแบบนี้

สร้างความ “อบอุ่นใจ” ความ “ปลื้มใจ” แก่คณะสงฆ์ทั้งมวล และรวมทั้งพสกนิกรชาวพุทธทั่วประเทศด้วย

หลายปีมานี้ คณะสงฆ์ไร้ที่พึ่ง

เมื่อ “เจ้าคุณพระ” พลตรีหญิงเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี เหมือน “นางฟ้า” มาโปรด ยามแผ่นดินหน้าแล้งโหยหา “น้ำฝน”

ซึ่งทั้งหมด..เกิดขึ้นได้

“เปรียญสิบ” เชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าเพราะ “พระบารมี” ของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระมหากษัตริย์ “ผู้ปิดทอง” หลังพระเสมอมา

Leave a Reply