รู้หรือไม่ “ประเทศไทย” มี มหาวิทยาลัยพุทธโลก  

“ผู้เขียน” คิดอะไรไปเรื่อยเปือยฉับพลันที่ทราบว่า “เจ้าคุณหรรษา” พระเมธีวัชรบัณฑิต ผอ.วิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ หรือ IBSC ไม่ประสงค์จะอยู่ในตำแหน่งต่อ หลังจากเป็นมาแล้ว 2 วาระ 8 ปี โดยทราบว่าท่านต้องการจะไปทำงานเรื่อง “กรรมฐาน” บริหารจัดการวัด และทำงานเรื่อง “สันติวิธี” ตามแนวทางพุทธศาสนา

“ผู้เขียน” มองภาพรวมกิจการพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ เสียดายผู้ความรู้ มีคุณภาพ “ครบเรื่อง” ทั้งในระดับวิชาการและเชิงบริหาร แบบ “เจ้าคุณหรรษา”  ซึ่งถือว่าเป็น “นักบริหารเชิงรุก” พระภิกษุสงฆ์รุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีเครือข่ายทั้งในประเทศและนานาชาติ “เสียดาย” มจร  ต้องขาดนักบริหารมือดี เก่งวิชาการ รูปหนึ่งไป

“ผู้เขียน” มอง “มจร” หลายปีมานี้ “คนเก่ง” เริ่มทยอยออกจาก “วงอำนาจ” มากขึ้น เริ่มทิ้ง “มจร” ไปทีละรูป ๆ   เสียดายว่า “มจร” ไม่สามารถดึงหรือรักษา คนมีความรู้หรือความสามารถเหล่านี้ไว้ได้

“ผู้เขียน” พูดแบบนี้ก็มิได้หมายความว่า “ผู้บริหารยุคนี้ ” ไม่มีคุณภาพหรือไม่ใส่ใจ หรือ “มจร “ยุคนี้ไม่มีคนเก่ง มีความสามารถ  เพียงแต่อยากจะบอกว่าหน้าที่ผู้บริหาร นอกจากต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดี ในการผลิตบัณฑิต นำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายได้แล้ว ต้องมีความสามารถในการสร้าง “นักบริหารรุ่นใหม่”  รักษา บ่มฟัก กล่อมเกลา แบบรุ่นสู่รุ่นด้วย

ประเภท “เด็กเส้น” ลูกท่านหลานเธอ มีทุกยุคทุกสมัย แต่ทำอย่างไรให้ “เด็กเส้น” ลูกท่านหลานเธอ เหล่านี้ ตั้งมาทำงาน มาบริหารแล้ว คนไม่ร้อง “ยี้”

“ผู้เขียน” คิดไปเอง และคงเป็นไปได้ยาก คืออยากเห็น “เจ้าคุณหรรษา” ไปดำรงตำแหน่ง “อธิการบดี” มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาโลก ที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอให้คณะรัฐมนตรีตั้งไว้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2542 เพื่อเป็นสังฆราชานุสรณ์ เนื่องในวโรกาส ครบ 7 รอบ 84 พรรษา สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร จนบัดนี้ 26 ปีแล้ว

อย่าว่าแต่ ชาวพุทธคนไทยเลย แม้กระทั้งพระภิกษุสงฆ์ส่วนใหญ่ก็ “ไม่รู้จัก” มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ว่าเป็นมาอย่างไร ตั้งอยู่ที่ไหน ตลอด 26 ปีมานี้มีมีผลงาน มีคุณูปการอะไรต่อพระพุทธศาสนาบ้าง

ดีไม่ดีพระภิกษใน “วัดบวรนิเวศ” เองก็อาจจะไม่รู้ นอกจาก “เจ้าคุณอนิลมาน” ที่เคยดำรงตำแหน่ง “อธิการบดี” มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลกนี้

“ผู้เขียน” ไปค้นดูมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2542  ระบุว่า มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลกนี้ ให้อยู่ภายใต้กำกับองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) เนื่องด้วย “พ.ส.ล.” เป็นคนเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการตั้งโดยอาศัยมติคณะรัฐมนตรี  สถานะมหาวิทยาลัยพุทธโลก วาดฝันไว้เหมือนกับ  UN University คือ ทำวิจัยเสนอองค์การสหประชาชาติ (UN) แต่ปัญหาของมหาวิทยาลัยพุทธโลก คือ งบประมาณไม่มี คนทำงานก็ไม่มี ที่มีทำงานแบบ “จิตอาสา”  หลายคนคิดไปว่าคือ “มหาวิทยาลัยเถื่อน”

“ผู้เขียน” คิดว่า “พ.ส.ล.” ต้องหา “นักบริหาร” มือดี ที่เก่งทั้งในด้าน “วิชาการ -บริหาร”  เข้าไปช่วย ลองมอง “พระรุ่นใหม่” ที่เก่งวิชาการสมัยใหม่ ทำงานเชิงรุกระดับนานาชาติได้  มีหัวใจเสียสละ  นอกจากเพื่อสนองวัตถุประสงค์คือเป็น “ศูนย์ข้อมูล” ด้านพระพุทธศาสนาให้ UN แล้ว ตั้งมาเป็น “สังฆราชานุสรณ์”  แล้วต้องให้สมพระเกียรติ แบบมีชีวิตชีวา จับต้องได้อย่างแท้จริงด้วย!!

Leave a Reply