วันที่ 10 มกราคม 2568 วานนี้ ที่วัดกำแพง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร นางเทียบจุฑา ขาวขำ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร มอบให้นายวีรภัทร คันธะ โฆษกคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วย ดร. เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล รองประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านการศาสนา และนักวิชาการ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ นางภิรมย์ เจริญรุ่ง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ และข้าราชการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปศึกษาดูงานและรับฟังข้อเท็จจริง กรณีการใช้ประโยชน์ที่ดินของ วัดกำแพง แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คณะสงฆ์ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตภาษีเจริญ ผู้แทนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้ง กรรมการและไวยาวัจกร
ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล เผยว่า เบื้องต้นได้รับทราบข้อเท็จจริงจากวัดว่าขณะนี้ เจ้าของที่ดินบริเวณที่มีที่ดินติดกับเขตของวัดกำแพง 1 คน ได้ยื่นฟ้องวัดเกี่ยวกับที่ดินพิพาทในฐานความผิดละเมิด ซึ่งอยู่ในระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรม ซึ่งได้กำหนดการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทครั้งแรกในเดือนมกราคม 2568 ดังนั้น จะได้นำข้อเท็จจริงกลับมาพิจารณาศึกษาว่า เมื่อเรื่องอยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาล คณะกรรมาธิการจะไม่ก้าวล่วง และรอผลการพิจารณาพิพากษาของศาลต่อไป
หลังจากนั้นคณะกรรมาธิการศาสนา ได้เดินทางไปที่วัดครุนอก ตำบลบางครุ อำเภอพระประแดง จังหวัด สมุทรปราการ เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง กรณีการขอใช้ที่ดินของวัดในส่วนที่ติดแม่น้ำ เพื่อสร้างถนนคอนกรีตให้ชาวบ้านในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ในการสัญจรเดินทางได้สะดวกขึ้นกว่าเดิมในกรณีนำผู้ป่วยสูงอายุเดินทางไปโรงพยาบาล หรือกรณีอพยพการหนีไฟจากอัคคีภัย ซึ่งมีทางเดินเดิม ขนาด1.50 เมตร ไม่สามารถอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับกรณีเกิดเหตุดังกล่าวเพราะทางเดินคับแคบเกินไป โดยได้ร่วมประชุมกับพระสงฆ์ ไวยาวัจกร วัดครุนอก ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้แทนกรมเจ้าท่า เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ นายกเทศมนตรีเมืองลัดหลวง ผู้แทนชุมชนวัดครุนอก
“ได้รับฟังข้อเท็จจริงถึงแนวทางการสร้างทางเดินควรขอใช้ที่ดินที่เป็นของวัดประมาณ 5 เมตร เพื่อไม่ให้กระทบกับเขตที่ดินซึ่งกรมเจ้าท่าดูแล จะทำให้การรังวัดแนวเขตที่ดินส่วนที่ถูกน้ำกัดเซาะจากที่ดินเดิมไปในแม่น้ำเป็นที่ดินของวัดครุนอก ซึ่งสำนักงานที่ดินจะรังวัด และขึ้นแบบใช้เวลาประมาณ 90 วัน หลังจากนั้น เทศบาลจัดทำประชาคม ประมาณการเวลาที่กำหนดไว้ทั้งหมด ประมาณ10 เดือน และใช้งบประมาณดำเนินการก่อสร้างสะพานต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนในชุมชนต้องการให้รถยนต์เข้ามาใช้ประโยชน์ในการเดินทางดังกล่าวได้ด้วย และทราบว่า เจ้าพนักงานที่ดินจะทำการรังวัดและขึ้นแบบที่ดินของวัดครุนอก วันที่ 23 มกราคม 2567 ซึ่งคณะกรรมาธิการจะส่งผู้แทนจะขอเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพื่อให้การแก้ไขปัญหา และนำข้อมูลกลับมาพิจารณาติดตามความคืบหน้าต่อไป“ ดร.เพชรวรรต กล่าว
Leave a Reply