นอนโลงฝึกตายก่อนตายจริงนอนเอาสติให้คิดได้ว่า ‘ทุกคนหนีไม่พ้นความตายทุกคน’
สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา พิธีสืบชะตา เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่กระจายอยู่ในวัฒนธรรมแถบเอเชีย โดยเฉพาะในหมู่ชาวพุทธทุกนิกาย ทั้งชาวไทย จีน ไปจนถึงทิเบต รูปแบบประเพณี ก็ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของท้องถิ่น คนไทย มีความเชื่อเรื่องการต่อชะตา โดยการนอนในโลงศพ แล้วให้พระภิกษุสงฆ์ทำพิธีบังสุกุลเป็นบังสุกุลตาย เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ ที่นิยมมากในภาคเหนือ ทั้งนี้จะนิยมจัดในช่วงเทศกาสงกรานต์
ในขณะที่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เรียกพิธีสืบชะตาต่ออายุว่า “พิธีแซกี” คือ สุสานที่ฝังหลอก แต่ที่เจ้าของหลุมยังไม่ตาย โดยได้นำสิ่งของบางอย่างตามความเชื่อ เอาไปฝังไว้ในสุสานแทนตัว เพื่อใช้พลังของฮวงจุ้ยเข้าต่อชะตาเสริมบารมี นิยมทำกันแทบทุกรุ่นของช่วงอายุ สาเหตที่ต้องทำแซกีมีดังนี้
๑.เจ็บป่วยอย่างรุนแรง
๒.มีผู้สูงอายุในครอบครัว แม้จะไม่ได้เจ็บป่วย แต่ก็มักจะทำแซกี เพื่อเสริมบารมีให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และ
๓.กรณีดวงตกแบบสุดๆ
ส่วนในภาคกลาง นิยมสะเดาะเคราะห์ด้วยการนอนโลงศพ โดยมีคติความเชื่อว่า การให้พระเถระสวดนพเคราะห์ เสริมดวงชะตา เปรียบเสมือน “ตายแล้วเกิดใหม่”
เมื่อผ่านพิธีการนอนโลงศพแล้ว จะมีสุขภาพแข็งแรง ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เสริมมงคลชีวิตให้บังเกิดโชคลาภเป็นทวีคูณ เสริมบุญบารมีให้สูงขึ้น ดีขึ้น เด่นขึ้น ศัตรูหมู่มารมลายหายสิ้น กลับเป็นมิตรที่ดีต่อกัน
ขณะที่หลายคนบอกว่า ทำพิธีไปแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างประหลาด และประสบโชคดี มีชัย กันทั่วหน้าด้วย รวมทั้งมีคนจำนวนไม่น้อย ที่เชื่อว่าการนอนโลงสะเดาะเคราะห์ เป็นการแก้เคล็ดต่ออายุ และช่วยให้พ้นเคราะห์ได้
วัดที่มีการจัดพิธีการนอนโลงศพ ส่วนใหญ่จะเป็นวัดที่อยู่ต่างจังหวัด เช่น วัดป่าศรัทธาราม ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา วัดพราหมณี หรือวัดหลวงพ่อปากแดงหมู่ ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก
ขณะที่วัดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการจัดพิธีนอนโลงศพเพื่อสะเดาะเคราะห์ จะจัดขึ้นเฉพาะบางโอกาสเท่านั้น แต่ก็มีอยู่วัดหนึ่ง ที่จัดพิธีดังกล่าวให้แก่ญาติโยมทุกวัน คือ วัดตะเคียน ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งมี หลวงพี่สงบเป็นเจ้าอาวาส
จุดประสงค์ของการจัดพิธีดังกล่าว ไม่ใช่เพียงเพื่อการสะเดาะเคราะห์อย่างเดียว แต่หากยังต้องการสื่อให้ทุกคนรู้ว่า ที่สุดแล้วทุกคนต้องตาย
พิธีการนอนโลงศพสะเดาะเคราะห์ของวัดตะเคียน จะใช้เวลาแต่ละครั้งประมาณ ๕ นาที โดยพระสงฆ์ที่นิมนต์มาจำนวน ๔ รูป จะสวดบังสุกุลตายให้ผู้ที่นอนในโลงศพ จะหันหัวไปทิศตะวันตก และกลับหัวมาทิศตะวันออก พระจะสวดบังสุกุลเป็น พร้อมให้ศีล ให้พร
ทั้งนี้ทางวัดได้นำโลงศพใบเก่าไปทำพิธีฌาปนกิจตามประเพณี เพื่อให้สิ่งชั่วร้าย และสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวง ให้มอดไหม้ไปกับกองไฟ จากนั้นเปลี่ยนโลงศพใบใหม่มาใช้ทำพิธีให้ญาติโยมตลอดปี
อ.ธรรมจักร สิงห์ทอง อดีตอนุศาสนาจารย์กรมราชทัณฑ์ ได้พูดถึงพิธีกรรมการนอนโลงไว้อย่างน่าคิดว่า
“วัตถุมงคลก็ดี พิธีกรรมก็ดี ที่สืบต่อจากโบราณมาถึงปัจจุบัน ยังอยู่ได้เพราะความเชื่อว่า สามารถช่วยเสริมสร้างพลังใจให้เกิดความกล้าหาญ พิธีกรรมการนอนโลงดูผิวเผินอาจจะเป็นเรื่องของการสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา แต่สิ่งที่แฝงอยู่ในพิธีกรรมนี้ คือ เป็นการเตือนสติให้ระลึกว่า ในที่สุดแล้วทุกคนก็หนีไม่พ้นความตาย จะจนติดดิน หรือรวยล้นฟ้า ทุกคนต้องตายแน่ๆ การนึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้าออก ถึงจะเรียกว่าคนมีสติ และสตินี่แหละเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิต”
ประโยชน์ของฝึกตาย ท่านอาจารย์พุทธทาสสอนให้ฝึกตายทุกวัน “หัดตายเสียตั้งแต่ยังไม่ตาย” แล้วจิตใจจะดีขึ้น ชาวพุทธถือมรณานุสติ เป็นเรื่องสำคัญ คือ
การมีสติให้ระลึกนึกถึงความตาย จะมีความยับยั้ง ไม่ถลำเข้าไปสู่การแสวงหาสิ่งที่เกินความจำเป็น เช่น คนติดเชื้อเอดส์ ต้องเผชิญกับความตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนเผชิญไปเผชิญมา หมดความกลัวตาย เมื่อไม่กลัวตายก็เป็นอิสระ มีความสงบ มีความสุข และสุขภาพดี
การเผชิญความกลัวใดๆ เช่น กลัวผี โดยไม่หลบหนี ในที่สุดก็จะหายกลัว เพราะการหลบหนีไม่เคยทำให้ความกลัวหายไป
ประโยชน์ของการฝึกตายทุกวันนั้น ในทางพระพุทธศาสนา มีคำสอนให้มองเห็นตัวเอง ตายเป็นศพขึ้นอืด มีหนอนกินยั้วเยี้ย น้ำหนองไหล ต่อมาเนื้อผุพังไปหมด เหลือแต่กระดูก กระดูกก็หลุดออกจากกัน แตกออกเป็นชิ้นหยาบ ชิ้นละเอียด หายไป ไม่มีอะไรเหลือ เพื่อให้เห็นเป็นอนิจจังและอนัตตา จนกระทั่งคลายจากความยึดมั่นในตัวตน
การฝึกตายทุกวัน ให้มีความรู้สึกว่า ตายทั้งที่ยังไม่ตาย ได้ทำให้เกิดปัญญาแล้ว ศาสนาพุทธยังสอนให้คนเราไปร่วมแสดงความเสียใจต่อบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ก็เพื่อทำให้ตัวเราเกิดเป็นมรณาให้นึกถึงความตาย ไม่เช่นนั้นคนเราก็จะมีแต่ความอยาก มีแต่กิเลสที่จะเข้ามาเผาผลาญจิตใจ ให้คนเราเห็นแก่ตัว ไม่สนใจสังคม แต่ถ้ารู้จักนึกถึงความตาย สิ่งเหล่านี้ที่เหมือนเราแบกเอาไว้หนัก ก็จะเบาบางลง
การมีสติอยู่กับกายใช้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กิน เดิน นั่ง นอน ถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ หรือการทำงาน
ใน “การทำงานถ้าเจริญสติไปด้วยจะเพลิดเพลินอย่างยิ่ง” และไม่เบื่อเลย เช่น กวาดบ้าน ล้างชามจาน ก็ทำให้จิตอยู่กับการเคลื่อนไหวของแขนและไม้กวาด
ขณะเดียวกัน คนเราต้องเรียนรู้ตอนใกล้ตาย จะทำให้เกิดปัญญา หลายคนที่ใกล้ตายแล้ว เขารอดจากความตายมาได้ วิถีชีวิตเขามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาขยันทำบุญแล้วก็หมั่นทำความดีต่อตนเองและผู้อื่น
ผู้ที่สนใจอยากจะนอนโลงเพื่อฝึกตายก่อนตายจริง โดยทางวัดไม่ได้กำหนดราคาค่าทำพิธีใดๆ วัดตะเคียน ถนนนครอินทร์ ถนนพระราม ๕ ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โทร.๐-๒๕๙๕-๑๘๕๑, ๐๘-๑๙๒๑-๐๙๔๖
คอลัมน์ : แวดวงพระเครื่อง
ผู้เขียน : ไตรเทพ ไกรงู
Leave a Reply