ปรากฎการณ์ “หมอปลา” จาก “ทุบศาล” สู่ “ทุบสงฆ์”

เดิมหมอปลา หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว ก็คือ จำพวกเสมือน  “ยูทูปเบอร์” ทั่วไป ทำรายการผ่านช่องทาง “ยูทูป” และสื่อออนไลน์เพื่อหารายได้ ด้วยสไตร์คำพูดที่ “ดุดัน” และ  “กล้า ในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า ที่ไหนมีคนขอความช่วยเหลือประเภทผี ๆ ปอบ ๆก็ไป “ช่วยฟรี” แล้วสร้าง “คอนเทนต์” ให้ติดตลาดให้คนดูติดตามกดไลน์ กดแชร์

หมอปลาเลือกเน้นเล่นกับ “ความศรัทธา อันเป็นรากเหง้าของสังคมไทย เช่น ศาลพระภูมิ ศาลเจ้า หมอผี  บอปผีสิง อันเป็นวิถีชาวบ้านจึงมีคนติดตามมาก “เรตติ้ง” ดี

ตอนหลัง ๆ มานี้ตลาด “ศาลพระภูมิ” อาจ  “ตัน”  เนื่องจาก “ฉายมา” หลายปี เสมือนกับรายการทีวีทั่วไป เวลาจะทำรายการ “ชื่อรายการ” อาจคงไว้ แต่ “รูปแบบ” การนำเสนอ..ต้องเปลี่ยน

หลังเกิดปรากฎการณ์ “ 2 พส.” เคยร่วมมือกันอยู่พักหนึ่ง ช่วงหลัง ๆ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ทิ้งระยะห่างกันไป

ตอนหลัง “หมอปลา ลุยเดี่ยว รับแจ้งปราบ “พระภิกษุ” ที่มี  “เค้าลาง” ว่า “ประพฤตินอกรีต”

โดยที่ มหาเถรสมาคม และสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง “ตกงาน”  ได้แต่ทำ “ตาปริบตา ๆ ”  ปล่อยให้ หมอปลา” ทำได้ตามความต้องการ โดยมี สื่อ บางช่อง คอย เลี้ยงกระแส ให้

ทั้ง ๆ ที่ความจริง อย่างที่ วัดแห่งหนึ่งที่ขึ้นป้าย ท่านบอก วัดเป็นนิติบุคคล ใครจะบุก ใครจะค้น ใครจะพานักข่าว เข้าไป “ค้นหรือบุกรุก” จำเป็นต้อง อาศัยกฎหมาย”

ขนาดเจ้าหน้ารัฐบุกค้นโดยชอบด้วยกฎหมาย ยังต้อง “พึ่งหมายศาล มิใช่บุกรุก ไปสร้าง “ความวุ่นวาย” ดังที่เกิดปรากฎการณ์ข่าวอยู่เนือง ๆ จะอ้างว่าจับเหตุเฉพาะหน้า” ก็อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด

หรือหากแม้ “เป็นจริง” ก็ควรมี “หน่วยงานที่รับผิดชอบ” ร่วมด้วย

สิ่งที่หมอปลาทำ สื่อถึงถึงอะไร !!

หนึ่ง..คณะสงฆ์ไร้ที่พึ่ง ขาดที่พึ่ง โดยเฉพาะพระภิกษุ เจ้าอาวาส ต่างจังหวัด

สอง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่ต้องดูแลคุ้มครองพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ “ไม่กล้า  ขยับอะไรเลย ไม่รู้ “กลัวเปิดแผล ตนเองหรือปล่อยแบบ ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์”

สาม  แสดงถึงความอ่อนแอกระบวนการยุติธรรมของรัฐ และคณะสงฆ์ ชาวบ้านจึงจำต้องพึ่ง “อำนาจนอกระบบ” แบบหมอปลาที่กล้าชน กล้าสู้กับสิ่งที่ตนเองคิดว่าไม่ถูกต้อง

บ้านเมือง..ไร้กฎหมาย..ใครคิดจะทำอะไรก็ได้..ปรากฎการณ์หมอปลา “รัฐบาล” ได้ประโยชน์เพราะ“กลบข่าว” ความล้มเหลวในการบริหารประเทศได้อย่างดี

สื่อบางช่อง บางคนก็เรียก “เรตติ้ง” เพื่ออัพราคา “โฆษณา” ของตนเอง “จรรยาบรรณ” ความรับผิดชอบต่อ “ส่วนรวม” สะกดไม่เป็น

ซึ่ง!! สิ่งที่หมอปลาทำ กระทบต่อ รากเหง้า” ฐานสำคัญความเชื่อและวิถีชีวิตของคนไทยจำนวนมาก

เพราะผีกับคนไทย อยู่ร่วมกันมานาน ไม่เคยเป็น “ศัตรูต่อกัน”  เราอยู่ร่วมกัน แบบน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า”  โดยเฉพาะ ศาลเจ้า,ศาลพระภูมิ หรือแม้กระทั้ง “พญานาค” 

ระยะหลังไล่ “ทุบพระ”  ซึ่งส่วนใหญ่ “อาจใช่” คือพระที่ประพฤติไม่ดีไม่ชอบ เพราะทุบง่าย เนื่องจากเป็นกลุ่ม “ผู้อ่อนแอ” ไม่มีอะไรคุ้มครอง และ “อำนาจรัฐ” ก็ไม่อยากเข้ามายุ่ง เพราะถือว่าคณะสงฆ์มี กฎหมายคุ้มครอง” อยู่แล้ว

ลองไปทุบองค์กร “ทหาร-ตำรวจ”  หรือ “ผู้ค้ายาเสพติด” หรือ “กลุ่มผู้ทุจริต”  บ้าง “หมอปลา” จะรู้ว่า “ของจริง” มันคืออะไร!!

ตรรกะที่ว่าพระดีไม่จำเป็นต้องกลัว”  ก็อาจใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ภายใต้กฎหมายประเทศไทยที่มีกฎหมาย สิทธิคุ้มครอง”อยู่

พฤติกรรมการณ์หมอปลา..คณะสงฆ์พึงตั้งหลักให้ดี ๆ ควรมี “ทนายความ” และ “สื่อมวลชน” ในมือบ้าง

เมื่อรัฐ มหาเถรสมาคม สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ “คุ้มครอง”ไม่ได้

พวกท่านควร “จับมือ” ร่วมมือกันหา “ทางออก” และ   “ป้องกัน”

วันนี้ทุบศาล..ทุบคณะสงฆ์ จนคณะสงฆ์ถูกสังคมมองแบบ “ด้อยค่า” ไม่จำเป็นต้องมีอยู่ในสังคมต่อไปอีกแล้ว  ซึ่งความคิดนี้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่ง “พระพุทธศาสนา” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วันข้างหน้าอาจลามปาม “ทุบพระพุทธรูป” ก็เป็นได้ ใครจะรู้..ใช่หรือไม่??

Leave a Reply