กะเทยครองวัด : ภาพลักษณ์(อาจจะ)ตกต่ำ ? ตอนที่ 1 วันที่ 1 ก.พ. 66 เฟชบุ๊ค Naga King หรือ ดร.อธิเทพ ผาทา อาจารย์คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้โพสต์ข้อความว่า @ ข่าวพระกะเทย ตัวชี้วัดภาพที่แท้จริงของคณะสงฆ์ ? ที่ผ่านมาผมคิดว่าผมเป็นอีกคนหนึ่งที่พูดถึงเรื่อง “กะเทยในคณะสงฆ์” ซึ่งผมเป็นหรือเคยเป็นพระมาก่อนหลายปีผมรู้ดีถึงไส้ในของการที่สงฆ์ในปัจจุบันยอมรับให้ “กะเทย”เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาหรือบวชในคณะสงฆ์ของไทย ซึ่งผลของการปล่อยปละละเลยให้กะเทยเข้ามาบวชในวงการสงฆ์นี่แหละที่ก่อปัญหาให้เกิดกับคณะสงฆ์ไทยไปทั่วประเทศ และเท่าที่ติดตามสถานการณ์มาตลอดก็พบว่า “ปัญหาเรื่องพระกะเทยไม่เคยได้รับการยกขึ้นมาพิจารณาโดยหน่วยปกครองของสงฆ์เลย” โดยคิดกันเสียว่า เรื่องกะเทยเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร แต่ ณ วันนี้ผมว่า สถานการณ์มันไม่ใช่เพียงแค่ไม่สาหัสนะครับ แต่มันคือความเพี้ยนเปลี่ยนแปลงและแสดงออกของบรรดา “พระเณรกะเทย”ทั้งหลายที่แสดงตัวตนออกมาทางสื่อออนไลน์มากขึ้น ถึงขนาด “ฉันบวบ”กันออกสื่อเลยทีเดียวแบบนี้ไม่เรียกว่าสาหัสแล้วเราจะเรียกว่าอะไรดีครับ ผมว่าต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ณ ปัจจุบันนี้สังคมออนไลน์หรือสังคมสื่ออสารที่ “ทุกคนสามารถเป็นนักแสดงและนักข่าว”ไปในตัวเองได้โดยไม่ต้องไปขอพื้นที่สื่อมในการแสดง กลุ่มพระเณรกะเทยก็เช่นกันครับ ตอนนี้พวกท่านเหล่านั้นมี “กลุ่มก้อนผ่านทางเฟส ไลน์กันเป็นทิวแถว”และเพราะสื่อออนไลน์นี้เองที่เป็นช่องทางที่กลุ่มพระเณรกะเทยได้แสดงออกจัดกลุ่มก้อนอวด “บวบ“กันภายในกลุ่ม ซึ่งในภาษาของ “กฎหมายตราสามดวง”ที่ตราขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๑ ท่านเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่า “เป็นการแย่งลูกสวาสดิ์หรืออวดลูกสวาสดิ์กันของบรรดาพระกะเทยหรือหลวงเจ๊ทั้งหลาย” ซึ่งในสมัยนั้นรัชกาลที่ ๑ พระองค์ทรงกำหนดโทษเอาไว้อย่างชัดเจนและหาทางกำจัดกลุ่มพระกะเทยเหล่านี้ไปจากคณะสงฆ์หรือจากพระศาสนาเสียเป็นจำนวนมาก ในสมัยนี้เขาไม่เรียกว่า “ลูกสวาสดิ์” ดอกครับในวงของพระกะเทยจะเรียกว่า “เด็กในคาถา”เป็นลูกรักของใครของมันจากนั้นก็อาศัยช่องทางของสื่อออนไลน์พากันพาเด็กในคาถาของตัวเองมาอวดกัน อวดดันยังไม่พอยัง “ฉันบวบอวดกันอีก”เมื่อฉันบวบเสร็จก็ทำไงต่อ ส่งรูปลงอวดกันในไลน์กลุ่มหรือไลน์ส่วนตัว ที่วสุดรูปเหล่านั้นมันก็รั่วออกมาภายนอก ก็ไม่ใช่ใครดอกครับก็บรรดา “เด็กในคาถา”ของท่านเหล่านั้นแหละที่นำออกมาเผยแพร่ข้างนอกจนปรากฏต่อสาธารณะดังที่เราทราบกัน หลายที่หลายแห่ง เมื่อมีข่าวเกิดขึ้นแบบที่กำลังเป็นข่างอยู่นั้น ก็ปรากฏว่า บรรดาญาติโยมของพระฉันบวบได้พากันร้องห่มร้องไห้รู้สึกเสียดายพระกะเทยที่ต้องอธิกรณ์แล้วจำต้องลาสิกขาไปเป็นชาวบ้าน หลายแห่งแทนที่จะตำหนิพระรูปนั้นที่ทำผิดกลับรู้สึกสงสารและได้พากันขอโอกาสให้ท่านได้กลับมาบวชใหม่อีกครั้งหนึ่ง โอ้ววว…พระเจ้าบ้านเราเมืองเรามันมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกันครับ พระฉันบวบที่สารภาพว่าไม่ลำพังแค่ฉันบวบแต่ยังลามปามไปฉันอย่างอื่นด้วยท่านปรับโทษเป็นปาราชิกนะครับ คือ “ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว”ไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้อีก แล้วจะพากันไปขอโอกาสให้ท่านได้กลับมาบวชใหม่อีกได้อย่างไรกัน ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ไม่ได้ว่าจะไป “ประณามพระ”ที่กระทำความผิดนะครับ แต่ผมกำลังชี้ให้เห็นว่า เมื่อเราไม่ใส่ใจหลักการที่ปรากฏในพระไตรปิฎกที่พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ชัดเจนมากครับว่า “กะเทยนั้นที่ยังไม่บวช “ห้ามบวช” ที่บวชมาแล้วให้สึก” ดังปรากฏในพระพุทธพจน์นี้ครับ “ภิกษุทั้งหลาย อนุปสัมบันผู้เป็นบัณเฑาะก์ ไม่พึง ให้อุปสมบท ที่อุปสมบทแล้ว พึงให้สึกเสีย” (วิ.ม.(ไทย)๔/๑๐๙/๑๗๓) คำว่าพึงให้สึกในความหมายปัจจุบันก็คือ “จับสึกได้เลย”ไม่ต้องไปคิดมากเพราะเรื่องนี้พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ชัดเจน ผมก็ว่าตามนั้น แต่การสึกหรือให้สึกนั้นให้เป็นไปตามมติของสงฆ์หรือคณะสงฆ์เท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าชาวบ้านจะไปจับท่านสึกเองได้นะครับ อ่านให้ดีๆ เพราะทุกองค์กรเมื่อพบความผิดผู้ปกครองที่ทำหน้าที่ปกครองย่อมมีสิทธิในการดำเนินการเช่นนั้นตามอำนาจที่มีอยู่ได้ หลายคนถามว่า “เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนแบบนี้แล้ว เหตุใดยังมีกะเทยเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาหรือในคณะสงฆ์อยู่อีกเล่า” เรื่องนี้ผมตอบได้ไม่ยากครับว่าเหตุที่ยังมีกะเทยเข้ามาบวชอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ก็คือมันเกิดมาจาก “ความหละหลวมไม่เอาใจใส่ของคณะสงฆ์เองนั่นแหละ” เมื่อคณะสงฆ์ไม่เอาปัญหาเหล่านี้มาพูดมาคุยที่สุดแล้วคนในสังคมที่ไม่รู้หลักพระธรรรมวินัยก็จะอาศัยช่องว่างเข้ามาบวชในพระศาสนาได้ และอีกอย่างก็คือ คณะสงฆืเองก็อาจจะพูดอะไรไม่ได้เพราะหลายที่ “หัวหน้าฝ่ายปกครองชั้นสูง ดันเป็นกะเทยเสียเอง” แบบนี้พูดไปแอ๊คชั่นไปก็มีแต่ “ตายกับตายลูกเดียว” ใครพูดคนนั้นก็เจ๊งที่สุดก็ไม่มีการดำเนินการใดๆผลสุดท้านกะเทยก็ครองวัดล่ะครับ หรือใครเห็นว่าไม่จริง แสดงความเห็นได้ครับ ผมไม่ได้ตำหนิหรอกครับกับ “สภาพที่กะเทยครองวัดครองสงฆ์”ผมว่ามันเป็นไปตามเวรตามกรรมนั่นแหละ กรรมเวรที่ว่าก็คือ เมื่อเจ้าอาวาสเป็นกะเทย ลูกวัดก็จะมีกะเทยมาบวชอยู่เต็มงวัดไปหมดเพราะท่านเจ้าอาวาสท่านก็คงจะหาพรรคพวกและหาคนประเภทเดียวกันมาอยู่ด้วย หากปฏิบัติกันเป็นปกติแนวนี้ก็เชื่อได้ครับว่าพระกะเทยก็จะไม่หมดไปจากสังคมสงฆ์บ้านเราหรอก และเมื่อกะเทยไม่หมดไป “ข่าวคาวทั้งเรื่องทางเพศและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆก็จะเกิดขึ้นกับสังคมสงฆ์บ้านเราไปแบบนี้อีกนาน” พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ชัดเจนครับว่า “อานนท์ ธรรมวินัยที่มีมาตุคามออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตจะไม่ตั้งอยู่ได้นานเหมือนเพลี้ยที่ลงในไร่อ้อยที่อุดมสมบูรณ์ก็ทำให้ไร่อ้อยนั้นไม่ตั้งอยู่ได้นาน”(วิ.ม.(ไทย)๗/๔๐๒/๓๒๐)โดยทรงมุ่งถึงการที่มีมาตุคามมาบวชแล้วจะทำให้พระศาสนาจะดำรงอยู่ได้ไม่นานนั้นก็รวมไปถึงสภาพของคณะสงฆ์ในยุคนั้นที่ทรงไม่อนุญาตให้ “กะเทยบวช”เพราะทรงคำนึงถึง “สภาพของปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับพระศาสนาอีกมากมายหลายอย่าง” และปัญหาเหล่านั้นก็อาจจะนำไปสู่สภาพของ “การที่พระศาสนาดำรงอยู่ได้ไม่นาน”ด้วย เฉกเช่นเดียวกันกับสภาพของคณะสงฆ์ไทยบ้านเราในตอนนี้ เมื่อมีพระเณรกะเทยมาบวชมาก ๆ ไม่แน่จุดนี้อาจจะเป็น จุดเสื่อมของพระศาสนาในสังคมบ้านเราก็ได้”นะครับ ฝากให้คิด??.. จำนวนผู้ชม : 911 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author ปิดฉากมหากาพย์คดีที่ดิน “อัลไพน์” ที่ธรณีสงฆ์ ?? ย้อนมูลเหตุคดี ก่อน ‘ยงยุทธ’ แพ้คดี รมว.มท.ลงโทษไล่ออก อุทัย มณี ม.ค. 20, 2022 "การกระทําของ ผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี… ปลัดมหาดไทยตรวจเยี่ยม จุดบริการประชาชนพื้นที่ฉะเชิงเทรา หวังลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ อุทัย มณี เม.ย. 14, 2022 ปลัดกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมจุดตรวจและจุดบริการประชาชนพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา… สว.ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี “คดีเงินทอนวัด” 4 ประเด็น ทั้ง พศ.ทำผิดกฎหมาย -การเยียวยาพระภิกษุ -รองผอ.พศ.ถูกร้อง!! อุทัย มณี ต.ค. 07, 2024 วันที่ 7 ตุลาคม 67 นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี… “ผอ.สันติศึกษา มจร”นำ”บวรร่วมใจสู้ภัยโควิด” เปลี่ยนลานวัดเป็นแปลงปลูกผักชุมชน อุทัย มณี ม.ค. 15, 2021 วันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2564 พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนวยการหลักสูตรสันติศึกษา… ก่อนจะสายเกินแก้!!..นักวิชาการศาสนาอาวุโสปลุก “ชาวพุทธ” ให้เห็นคุณค่าของระบบ “นิติรัฐ” อุทัย มณี มี.ค. 15, 2022 วันที่ 15 มี.ค. 65 พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย ได้โพสต์เฟชบุ๊คส่วนตัวว่า “นิติรัฐ:… โหด!! ซ้อมคนตายภายในเขตวัด อุทัย มณี เม.ย. 19, 2020 จากกรณีนายยุทธนา ซ้ายซา หรือด่อน อายุ 33 ปี และน้องชาย… ปลัด มท. ขอคณะสงฆ์ ภาค 14 ร่วมสนองพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” อย่างยั่งยืน อุทัย มณี พ.ค. 31, 2024 วันนี้ (31 พ.ค. 67) เวลา 12.30 น. ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร… คุณหญิงสุดารัตน์ร่วมยินดีกับ ‘นงค์นาถ ห่านวิไล’ รับปริญญาป.เอก’มจร’ อุทัย มณี พ.ค. 27, 2019 วันที่ 26 พ.ค.2562 คุณหญิงดร.สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย… เจ้าคณะอำเภอยะหริ่งติวเข้มพระเณรสอบนักธรรมประจำปี2565 อุทัย มณี ก.ย. 14, 2022 วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 พระครูอุดมธรรมาทร เจ้าคณะอำเภอยะหริ่ง… Related Articles From the same category สมเด็จพระสังฆราชประทานไฟพระฤกษ์ สวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย-ทั่วโลก ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 วันที่ 19 ธันวาคม 2566 เวลา 13.00 น. ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม… ปลัดมหาดไทย เยี่ยมชม “สวนแก้วคำเอ้ย” อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ชื่นชมเป็นต้นแบบการพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม วันที่ 12 ก.พ. 66 เวลา 09:09 น. ที่สวนแก้วคำเอ้ย ถ.สมโภชเชียงใหม่ 700… ผู้ตรวจพช. ขึ้นเหนือ ติดตาม ขยายผลการปลูกพืชผักสวนครัวด้วยพืชสมุนไพรไทย ต้านภัย โควิด-19 วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 นางสาวเบญจมาศ วงษ์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน… อยากเป็นนักไกล่เกลี่ยเหมือน “ขวัญ-อุษามณี” สมัครอบรมเลยที่ศูนย์”มจร” วันที่ 2 ธ.ค..2563 ตามที่นางเอกสาว "ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์" ที่มีความสามารถอบรมจบหลักสูตรอบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติไกล่เกลี่ยข้อพิพาท… สกู๊ปพิเศษ : ส่องพัฒนาการ “มจร” จากยุคก่อตั้งสู่ยุค “พุทธนวัตกรรม” สอดรับกับ “SDGs” ของ UN.!! ระหว่างวันที่ 8 -11 ธันวาคม 2565 นี้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย…
Leave a Reply