วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๖ ณ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง จ.นครปฐม มีการกำหนดการจัดพิธีถวายรางวัล “พุทธปัญญาคุณูปการ” ในวาระครบ ๑๐๑ ปี ชาตกาล พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺญมหาเถร ) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ โดยภายในงาน พระเทพปวรเมธี รองเจ้าคณะภาค ๑๔ รองประธานศูนย์พระปริยัติเทศแห่งคณะสงฆ์ รองอธิการบดี มจร เป็นผู้อ่านประกาศสดุดีเกียรติคุณ และ พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้ถวายโล่พุทธปัญญาคุณูปการ แด่ พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ราชบัณฑิต
สำหรับ พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) เป็นพระมหาเถระผู้เปี่ยมด้วยภูมิรู้และภูมิธรรม มีศีลาจารวัตรเป็นที่น่าเคารพศรัทธาแห่งพุทธศาสนิกชน เป็นยอดนักการศึกษา เชี่ยวชาญแตกฉานในพระพุทธศาสนา มีคุณูปการและได้บำเพ็ญคุณประโยชน์อย่างไพศาลแก่สังคม ประเทศชาติ และพระพุทธศาสนา มีประสบการณ์และผลงานมากมาย สรุปได้ดังนี้
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ ๘ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และราชบัณฑิต สาขาตันติภาษา
พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ นามเดิม ทองดี นามสกุล สุรเดช เกิดเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๙ ที่อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร จบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นแล้ว ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๔ ปี มีพระครูวิมลวชิรากร เป็นพระอุปัชฌาย์ และเมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดไตรภูมิ อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร มีพระวชิรสารโสภณ วัดหงษ์ทอง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “สุรเตโช” ต่อมาได้ย้ายไปศึกษาพระปริยัติธรรม ณ สำนักเรียนวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จนสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ ขณะมีอายุ ๒๖ ปี นอกจากนี้ ยังสอบได้ประโยควิชาครูพิเศษมัธยม (พ.ม.) ในปีถัดมา

ด้านการปกครอง พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้เป็นผู้สนองงานคณะสงฆ์ในตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ คือ เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร เลขานุการเจ้าคณะเขตบางขุนเทียน เป็นเจ้าคณะแขวงบางค้อ ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เจ้าอาวาสวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นเจ้าคณะภาค ๑๖ และเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๓๕ – ๒๕๔๔ ตามลำดับ
ด้านการศึกษา พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ สอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค พ.ศ. ๒๕๑๕ ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง เป็นกรรมการตรวจประโยคบาลีสนามหลวง เป็นกรรมการตรวจร่างและเฉลยข้อสอบบาลีสนามหลวง เป็นหัวหน้าวิทยากรอบรมบาลีก่อนสอบ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ณ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๓ ณ วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอาจารย์สอนบาลีประโยค ป.ธ.๘ และ ป.ธ.๙ โรงเรียนพระปริยัติธรรมส่วนกลางของคณะสงฆ์ ณ วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดราชโอรสาราม เคยเป็นรองประธานกรรมการตรวจสอบต้นฉบับพระไตรปิฎกฉบับสังคายนา ภาษาไทยและภาษาบาลี เป็นรองประธานกรรมการตรวจสำนวนการแปลพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ เป็นกรรมการจัดทำแผนพัฒนาด้านการศึกษา กรมการศาสนา เป็นประธานกรรมการจัดทำต้นฉบับพระไตรปิฎก ฉบับภาษาไทย ด้วยผลงานเป็นที่ประจักษ์จึงได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นราชบัณฑิต ในประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาตันติภาษา เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙

ด้านการเผยแผ่ พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ เป็นพระมหาเถระผู้มีความเชี่ยวชาญและแตกฉานในการแสดงพระธรรมเทศนา ได้รับอาราธนาให้ไปถวายพระธรรมเทศนาในพระบรมมหาราชวัง และแสดงพระธรรมเทศนาในพิธีสำคัญต่างๆ ทั่วไป พระเดชพระคุณฯ ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๘ เป็นผู้อำนวยการฝึกอบรมพระนักเทศน์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง หนตะวันออกและหนใต้ เป็นวิทยากรถวายความรู้ในการอบรมพระนักเทศน์ทุนเล่าเรียนหลวง และหลักสูตรวิชาการเทศนา ณ สำนักวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร จนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญคือ ได้เขียนหนังสือและแต่งตำราเพื่อเผยแผ่พุทธธรรม มีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์แล้วมากกว่า ๑๐๐ เรื่อง นอกจากนี้ ยังได้อนุญาตให้นำศัพท์ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและคำที่ใช้กับวัดและพระในหนังสือ “คำวัด” เผยแพร่ในอภิธานศัพท์พุทธศาสนาในวิกิพีเดีย
ด้านสาธารณูปการ พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ในฐานะเจ้าอาวาสได้บริหารจัดการและพัฒนาวัดราชโอรสารามให้วิจิตรงดงามเป็นรมณียสถานที่โดดเด่น บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่พระภิกษุสามเณรที่พักอาศัยและเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่พุทธศาสนิกชนที่มาจัดพิธีบำเพ็ญกุศล นอกจากนี้ ยังเป็นประธานอำนวยการ/อุปถัมภ์การก่อสร้างวัดไทยในต่างประเทศ ประกอบด้วย วัดพุทธวิหาร กรุงเบอร์ลิน วัดธรรมวิหาร ฮันโนเวอร์ วัดสังฆวิหาร สตุ๊ตการ์ด วัดพุทธอังคีรสาราม บาลิงเง่น วัดไทยไลป์ซิก เมืองไลป์ซิก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และวัดธรรมกิตติวงศ์ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
ด้านศึกษาสงเคราะห์และสาธารณสงเคราะห์ พระพรหมวชิรปัญญาจารย์ ได้จัดตั้งกองทุนและแจกทุนการศึกษาแก่พระภิกษุสามเณร นักเรียนโรงเรียนวัดราชโอรส และโรงเรียนต่าง ๆ ตลอดจนให้ทุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้บริจาคทุนทรัพย์เพื่อการสาธารณประโยชน์ เช่น สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น


Leave a Reply