วันที่ 1 ส.ค. 67 ที่วัดบางหลวงหัวป่า สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำข้าราชการและพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพิธีเททองหล่อองค์พระประธานหน้าตัก 72 นิ้ว ปางมารวิชัยและพระอัครสาวก จำนวน 5 องค์ เพื่อประดิษฐานหน้าพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม 3 องค์ และประดิษฐานในอุโบสถวัดบางหลวงหัวป่า สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม โดยได้รับเมตตาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เป็นประธานสงฆ์ พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต (พระครูต้น) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า สาขาวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นประธานดำเนินการ โดยมี พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมีผู้ร่วมพิธีกว่า 1,000 คน อาทิ นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายคมสัน ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท คุณละออ ตั้งคารวคุณ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ และภาคีเครือข่าย
โอกาสนี้ พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป ประกอบด้วย พระราชสุทธิธรรมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี วัดประยูรธรรมาราม พระราชวรเมธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี (ธ) วัดโบสถ์ สามโคก พระราชกิตติเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี วัดเขียนเขต พระราชมหาเจติยาภิบาล วัดโบสถ์ พระราชวชิรโมลี วัดระฆังโฆสิตาราม พระราชวชิรธรรมเมธี วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม พระเมธีวราภรณ์ วัดพนัญเชิง พระศรีวัชรปัทมคุณ วัดบางหลวง พระญาณวชิรวงศ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระวินัยเวที วัดเสนาสนาราม เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระสงฆ์สมณศักดิ์ 8 รูป ได้แก่ พระราชสิริวัชรรังษี วัดชินวราราม พระราชวัชราวิทยาคม วัดท่าสะแบง พระพิมลภาวนาพิธาน วิ. วัดระฆังโฆสิตาราม พระวชิรภาวนาภิรัต วิ. วัดตะโก พระครูโสภณภัทรเวทย์ วัดสายไหม พระครูธรรมธรดิเรก อนุตฺตโร วัดหนองทราย พระมหาอิสระ ญาณิสฺสโร วัดดาวดึงษาราม และพระปลัดตะวัน อิทฺธิโชโต วัดน้อมประชาสรรค์ นั่งปรกอธิษฐานจิต โดยในการประกอบพิธี ได้มีการปลูกต้นโพธิ์หน่อเนื้อจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดระฆังโฆสิตาราม และทำกิจกรรมปล่อยปลา ลงคลองเปรมประชากร จำนวน 9,999 ตัว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำพาหมู่คณะ ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนช่วยกันฟื้นฟูแม่น้ำคูคลองในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ คลองเปรมประชากรที่มีเส้นทางตั้งแต่กรุงเทพมหานครถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยพระครูสุภัทรธรรมโฆษิต (พระครูต้น) ได้น้อมนำพระราชดำริและพระราชปณิธาน “แก้ไขในสิ่งผิด” ด้วยการพัฒนาพื้นที่บริเวณที่ตั้งของวัดบางหลวงหัวป่าแห่งนี้ ตั้งแต่เดิมมีสภาพรกร้างว่างเปล่า สกปรกรกรุงรัง มีการบุกรุกที่โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี พูดคุยกับประชาชน และบริหารจัดการพื้นที่ ด้วยการแบ่งสัดส่วนเป็นพื้นที่ตั้งเสนาสนะของวัด พื้นที่อารยเกษตร พื้นที่ที่อยู่อาศัย โดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทย พัฒนาวัดแห่งนี้ให้มีความร่มรื่นร่มเย็น มีต้นไม้ใบหญ้า เป็นแหล่งสร้างความมั่นคงทางอาหาร เป็นแหล่งเรียนรู้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา หรืออารยเกษตรตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อปฏิบัติบูชาถวายพระราชกุศลตลอดทั้งปี
“คณะสงฆ์และชาวมหาดไทยมีความภาคภูมิใจที่จะทำสิ่งที่ดีเพื่อถวายพระพรในปีมหามงคล เพื่อให้ได้เกิดสิ่งที่ดีกับประเทศชาติ พระศาสนา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ด้วยการน้อมนำพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” ด้วยการแก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีความสะอาดสวยงาม โดยนายอำเภอและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องมาช่วยกันรักษาความสะอาดและมีการปลูกต้นไม้ยืนต้น ทำให้เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน ด้วยการช่วยกันปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนหวงแหน ทำให้พื้นที่มีความสวยงาม ร่มรื่น ร่มเย็น ตามหลัก “บวร” บ้าน วัด ราชการ ด้วยการร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ โดยมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นศูนย์รวมจิตใจของพวกเราทุกภาคส่วนในการทำความ ดี ด้วยหัวใจ เกิดประโยชน์และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม
พระครูสุภัทรธรรมโฆษิต (พระครูต้น) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหลวงหัวป่า กล่าวว่า วัดบางหลวงหัวป่า (ร้าง) แห่งนี้เป็นวัดร้างตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ปัจจุบันไม่มีเสนาสนะอะไร อาตมภาพจึงได้ร่วมกับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เมื่อครั้งท่านดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นผู้ขอบูรณปฏิสังขรณ์และขอยกวัดร้างแห่งนี้ให้เป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่จำพรรษาต่อไป โดยวัดนี้เป็นวัดสาขาของวัดระฆังโฆสิตาราม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา วัดได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย ต้นไม้ประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ตามความตั้งใจของท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่ประสงค์จะให้สถานที่แห่งนี้ เป็นรมณียสถาน สถานที่แห่งความร่มเย็น และเป็นศูนย์การเรียนรู้ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเป็นสถานที่แห่งการร่วมทำในสิ่งที่คนในโลกใบนี้ต้องช่วยกัน นั่นคือ การลดภาวะโลกร้อนตามแนวทางความยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเมื่อวัดแห่งนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จนเสร็จสมบูรณ์ ยังเป็นพุทธสถานสาธารณสงเคราะห์นักเรียน นิสิต นักศึกษา ผู้ป่วยยากไร้ และชาวบ้านในพื้นที่ ให้ได้รับประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายด้านการสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคมอีกด้วย
Leave a Reply