“เจ้าคุณพล” ชื้แจง!! แนวทางจัดการศึกษาต่อสำหรับ “สามเณรวัยประถม”

วันที่ 5 พ.ค.67 หลังจากมีกระแสคำถามในคณะสงฆ์เกี่ยวกับสามเณรบวชใหม่ที่ยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ว่าคณะสงฆ์มีแนวทางดำเนินการอย่างไร เนื่องจากหลายสำนักเรียนและหลายวัดไม่ต้องการให้สามเณรลาสิกขาออกไป รวมทั้งไม่สามารถจะต่อระดับการศึกษาระดับมัธยมได้ เกี่ยวกับประเด็นทางออกเรื่องนี้

ดร.อรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยว่า ผู้ที่บรรพชาสามเณรที่มีช่วงอายุระหว่าง 7-20 ปี ต้องได้รับการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมายการศึกษาภาคบังคับ แต่เนื่องจากการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาในปัจจุบันยังเป็นการจัดการศึกษาเฉพาะในระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถรับสามเณรเข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาได้  สำนักงานเลขาธิการสภากการศึกษา ร่วมกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม วางแนวทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับประถมศึกษาของสามเณรดังนี้ว่า สามเณรสามารถเข้าเรียนในสถานศึกษาที่จัดการศึกษาภาคบังคับของทางราชร่วมกับคฤหัสถ์ได้โดยให้สถานศึกษาพิจารณาจัดการเรียนการสอนตามความเหมาะสมและเอื้อเฟื้อต่อสถานภาพของสามเณร พร้อมกันนี้กรมส่งเสริมการเรียนรู้สามารถดำเนินการจัดการศึกษาให้สามเณรตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2560 ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของคณะสงฆ์ในแต่ละพื้นที่ และเป็นหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้จะได้พิจารณาเป็นรายกรณีไป

“ทั้งนี้ที่ประชุมมหาเถรสามาคมครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 ได้กรุณามีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่องกรณีพระภิกษุสามเณรเรียนวิชาหรือสอบแข่งขัน หรือ สอบคัดเลือกอย่างคฤหัสถ์ พ.ศ.2564 มีเจตนารมณ์ให้เป็นข้อห้ามพระภิกษุสามเณรเข้าเรียนวิชาหรือสอบแข่งขันหรือสอบคัดเลือกอย่างคฤหัสถ์ในระดับอุดมศึกษาเท่านั้น จึงมิได้กระทบต่อการเข้ารับการศึกษาในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับแต่ประการใด”

พร้อมกันนีั พระเทพเวที เจ้าคณะภาค 6   ในฐานะเลขานุการด้านศาสนศึกษา มหาเถรสมาคม ได้เสริมว่า “เมื่อสามารถปลดล๊อคตรงนี้ได้แล้วก็จะก่อให้เกิดมีสามเณรศาสนทายาทเพิ่มขึ้น..อีกทั้งทำให้การดำเนินการตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ. การศึกษาพระปริยัติธรรม 2562 ทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น คือสามเณรศาสนทายาทได้เรียน พระปริยัติธรรมแผนกธรรมและแผนกบาลี เป็นหลัก และเรียนวิชาสามัญเพิ่มเติม 3 วิชาตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ  ทั้งนี้อาจดำเนินการร่วมกันกับกรมส่งเสริมการเรียนรู้ หรือ กศน. เดิมได้ หรือทางสำเรียนหรือสำนักศาสนศึกษาสามารถดำเนินการเองได้เมื่อมีความพร้อม..”

Leave a Reply