วันที่ 20  ก.ค. 67 วานนี้ เวลา 19.00 น. ที่วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพรรษาพระราชทาน จังหวัดสระบุรี ประจำปี 2567 โดยได้รับเมตตาจาก พระราชวชิรมงคลวิสิฐ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดมงคลชัยพัฒนา พระอาราม พระศรีปริยัติเวที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ ร่วมพิธี โดยมี นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย นางจิตตินันท์ เชาวรินทร์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสระบุรี นายประสพโชค อยู่สำราญ นายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกู้เกียรติ นิ่มเนียม ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายกิติพล เวชกุล ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายองอาจ วงษ์ประยูร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระบุรี หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคีเครือข่าย และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมในงาน

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ร่วมรับชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมชมขบวนรถเทียนพรรษาพระราชทาน ขบวนพยุหยาตรา ขบวนรถบุปผชาติ ประกอบด้วย ขบวนหมื่นไชยราช โดยมีผู้ถือธง จำนวน 120 คน ขบวนมหาดเล็กพลม้านำเสด็จ โดยมีม้า จำนวน 16 ตัว ขบวนมหาดเล็กพลเดิน โดยมีผู้เข้าร่วมขบวน จำนวน 320 คน ขบวนช้าง 9 เชือก พร้อมเครื่องทรงและผู้ร่วมขบวน ขบวนจตุลังคบาท ข้างเสด็จ 9 เชือก ขบวนทหารเชิญเครื่องสูง โดยมีผู้เข้าร่วมขบวน จำนวน 100 คน ขบวนเชิญเครื่องนมัสการและไทยธรรมสงฆ์ มีผู้ร่วมขบวน จำนวน 100 คน และรับชมการแสดงในพิธีเปิด พร้อมทำพิธีเปิด แล้วนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนชาวสระบุรี ร่วมตักบาตรดอกเข้าพรรษา และร่วมประเพณีล้างเท้าพระ เป็นอันเสร็จพิธี

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นโอกาสและมงคลของชีวิตที่ได้มาร่วมในพิธีเปิดเทศกาลประเพณีทำบุญตักบาตรดอกเข้าพรรษาซึ่งเป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลก และได้มีโอกาสมาร่วมอนุโมทนาบุญร่วมกับคณะกรรมการจัดงาน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนช่วยกันรักษาประเพณีหนึ่งเดียวในโลกนี้ให้มีอายุยืนยาวเพื่อเป็นวัฒนธรรมประเพณีในการเชิญชวนให้ผู้คนได้มาเข้าวัดทำบุญและกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความสำคัญนับเนื่องแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ที่ครั้งหนึ่งของชีวิตต้องเดินทางมากราบสักการะ คือ “รอยพระพุทธบาท” ตลอดรวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ที่อยู่ในวัดพระพุทธบาทแห่งนี้ รวมถึงได้มีโอกาสได้แวะสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์พื้นที่ต่าง ๆ ในจังหวัดสระบุรีของเรา ดังที่ในวันนี้เราได้ร่วมรับชมขบวนแห่ที่ได้จำลองหลวงพ่อสำเร็จองค์ศักดิ์สิทธิ์มาเคลื่อนผ่านให้พวกเราได้ระลึกและสักการบูชา รวมถึงขบวนจำลองรอยพระพุทธบาท ของวัดพระพุทธฉาย ซึ่งงานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามเหล่านี้ ทั้งทางศาสนาก็ดี ทางสังคมก็ดี นอกจากจะช่วยทำให้เราได้มีโอกาสรวมพลังความรักความสามัคคีในการจัดงานแล้ว ยังช่วยทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความมั่นคงเข้มแข็งขึ้น เพราะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสระบุรีให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้พี่น้องประชาชนได้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูจุนเจือครอบครัว

“ที่สำคัญที่สุด การจัดงานในครั้งนี้ยังทำให้เรามีโอกาสทำให้อัตลักษณ์แห่งความเป็นไทยของจังหวัดสระบุรีได้ถูกส่งผ่านถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีผู้ใหญ่อย่างพวกเราทำให้ลูกหลานได้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อที่จะทำให้ในอนาคต เราจะมีลูกหลานที่ปัจจุบันเป็นเด็กเล็ก จะได้มีโอกาสเป็นผู้ร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมเหล่านี้ ทั้งการสืบสานประเพณีที่สำคัญของชาวพุทธ การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมแบบไทย การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอื่น ๆ และในปีนี้ยังเป็นวาระพิเศษที่เพิ่งผ่านการจัดงานมหามงคลในวาระครบรอบ 400 ปี ของวัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร จึงเป็นโอกาสอันดีที่พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ และทั่วโลก จะได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาท โดยมีคณะสงฆ์ของจังหวัดสระบุรี ภายใต้การนำของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชวชิรมงคลวิสิฐ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดมงคลชัยพัฒนา พระอารามหลวง ท่านเจ้าคุณพระศรีปริยัติเวที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร พร้อมด้วยพระเถรานุเถระทุกรูป จึงขอบคุณคณะกรรมการจัดงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน พร้อมทั้งขอให้พวกเราทุกคนได้รับความสุขจากสิ่งที่พวกเราได้มีส่วนร่วม ทั้งที่ได้มาร่วมชม และมาร่วมทำบุญในงาน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอขอบคุณพวกเราทุกคนที่ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงให้จังหวัดสระบุรี และประเทศไทยของพวกเรา ด้วยการเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทั่วไป ตลอดจนถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ได้มีส่วนร่วมในงานประเพณีที่ดีงามซึ่งถือเป็นหนึ่งเดียวในโลกนี้อย่างยาวนาน โดยจากการบันทึกที่เป็นทางการนั้น มีการจัดงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งหมด 22 ครั้ง และสมควรที่ชาวจังหวัดสระบุรีและคนไทยทุกคน จะได้อนุรักษ์ส่งเสริมให้ ประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา และถวายเทียนพรรษาพระราชทาน จังหวัดสระบุรี อยู่คู่กับรอยพระพุทธบาท เพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดสระบุรี รวมถึงชาวพุทธ และคนไทยทุกคน และยังเป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อันเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติบูชาเพื่อ เฉลิมพระเกียรติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านการจัดงานที่เป็นมงคลยิ่งในครั้งนี้

นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพรรษาพระราชทานจังหวัดสระบุรี เป็นประเพณีหนึ่งเดียวในโลกที่มีการตักบาตรด้วย ดอกเข้าพรรษา ซึ่งเป็นดอกไม้ที่จะออกดอกบานสะพรั่งสวยงามทุกปีในช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น จังหวัดสระบุรี จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี อำเภอพระพุทธบาท เทศบาลเมืองพระพุทธบาท วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่าย และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสระบุรี กำหนดจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทานจังหวัดสระบุรีขึ้น ในระหว่างวันที่ 19 – 21 กรกฎาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมตักบาตรดอกเข้าพรรษาอันงดงามนี้ ให้อยู่คู่กับจังหวัดสระบุรีสืบไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ตลอดจนเสริมสร้างความรัก ความสามัคคีปรองดองในหมู่ประชาชนชาวจังหวัดสระบุรี และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาร่วมงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีอันเป็นอัตลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก

“สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ โดยเฉพาะในวันพิธีเปิดงานจะมีขบวนรถเทียนพรรษาพระราชทาน ขบวนพยุหยาตรา ขบวนรถบุปผชาติเข้าร่วม จำนวน 10 ขบวน ผู้ร่วมแสดงประกอบประมาณ 1,000 คน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้รับความอนุเคราะห์จากพระเดชพระคุณพระราชวชิรมงคลวิสิฐ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดมงคลชัยพัฒนา พระอารามหลวง พระศรีปริยัติเวที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร รวมถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี เทศบาลเมืองสระบุรี เทศบาลเมืองแก่งคอย เทศบาลเมืองทับกวาง เทศบาลเมืองพระพุทธบาท และเทศบาลตำบลหนองแค เพื่อให้การจัดงานในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สวยงามและเป็นที่ประทับใจของผู้มาร่วมงาน” นายบัญชา กล่าวในช่วงท้าย