“พระธรรมวชิรคุณาธาร ” ยินดีเป็นเจ้าภาพร่วมกับรัฐบาล ปรับภูมิทัศน์บูรณะ “พระศรีศากยะทศพลญาณ” พระประธานประจำพุทธมณฑล

วันที่ 19 พ.ย. 67  ที่วัดศรีสุดารามวรวิหาร  แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร  ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้ากราบสักการะ พระธรรมวชิรคุณาธาร  เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ พร้อมกับปรึกษาเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายพระพุทธศาสนาและสนองกิจการงานคณะสงฆ์

ดร.นิยม เวชกามา กล่าวว่า  รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบมหายให้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่ต้องสนองงานคณะสงฆ์ ได้มอบนโยบายขับเคลื่อนกิจการพระพุทธศาสนาไว้ 8 ข้อ ไว้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งเรื่องปกป้องพระพุทธศาสนา แก้ปัญหาที่ดินวัดเป็นวาระแห่งชาติ ปรับโครงสร้างสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นต้น

“หลังจากได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้เข้ากราบสักการะ สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และพระเถระอีกหลายรูป เพื่อฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสนองงานคณะสงฆ์ที่รัฐบาลควรทำว่ามีอะไรบ้าง รวมทั้งนำนโยบายที่รัฐบาลอยากจะทำทั้ง 8 ข้อไปเล่าให้ฟัง ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลและท่านอาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ได้มอบไว้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คือ การบูรณะปรับภูมิทัศน์พระประธานประจำพุทธมณฑล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ซึ่งทุกรูป ทั้งสมเด็จพระพุฒาจารย์  สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เห็นด้วยและอนุโมทนากับสิ่งที่รัฐบาลคิดทำ ตอนนี้จึงมอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อมาสำรวจอยู่คาดว่าใช้งบประมาณตัวเลขกลม ๆ  20 -30 ล้านบาท ซึ่งจะทำในนามของรัฐบาล ร่วมกับคณะสงฆ์..”

ด้านพระธรรมวชิรคุณาธาร   กล่าว่า  ขออนุโมทนากับรัฐบาล คิดในสิ่งที่เป็นมหามงคล เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ 72 พรรษา ที่ผ่านมาคณะสงฆ์เคยทำแผนร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก ตามแผนปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนา 6+1 ใช้งบประมาณ 6,000 ล้านบาท แผนตัวนี้ที่สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติน่าจะยังคงเก็บไว้อยู่ ที่พุทธมณฑล อาตมาบูรณะทั้งหอประชุมใหญ่หมดงบไปประมาณ 40 ล้านบาท บูรณะหอพิพิธภัณฑ์หมดไปประมาณ 100 ล้านบาท  ส่วนเรื่องการปรับภูมิทัศน์รอบพระประธานประจำพุทธมณฑล อาตมาอยากทำมานานแล้ว เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทยและคณะสงฆ์ไทย ยิ่งปีนี้เป็นปีมหามงคลด้วย เราทำเพื่อเฉลิมพระเกียรติให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาตมายินดีเป็นอย่างยิ่ง หากรัฐบาลทำหนังสือมาขอให้ช่วย อาตมาพร้อมลงมือทำได้เลย

“สำหรับองค์พระ อันดับแรกต้องล้างคราบต่าง ๆ ออกก่อน ส่วนเรื่องอื่นเราไม่ต้องไปแตะ เพราะกรมศิลป์อยากอนุรักษ์ไว้ก็ต้องปล่อยไปตามนั่น   แต่ลานองค์พระที่กรมโยธาธิการเคยมาสำรวจ แล้วตีราคาไว้ประมาณ 12 ล้าน อันนี้ทำได้เลย รวมทั้งฐานพระประธานอีก คาดว่างบประมาณไม่น่าเกิน 30 ล้านบาท อาตมายินดีรับเป็นประธานทำให้ ขอให้ท่านชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลทำหนังสือมา อย่างเป็นทางการแล้วมาตั้งคณะกรรมการทำร่วมกัน ความจริงพุทธมณฑล มันต้องมีพิพิธภัณฑ์ด้วย อาคารที่เคยซ่อมไว้หมดไปประมาณ 100 ล้านบาท วันก่อนเดินไปดูทรุดโทรมอีกแล้ว มันต้องซ่อมใหม่แล้วทำเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยว มาไหว้พระ มีสินค้าโอทอปจากทุกจังหวัดมาขาย นักท่องเที่ยว  นักท่องเที่ยววัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดอรุณเสร็จ ต้องแวะมาพุทธมณฑล  มารับประทานอาหารที่นี่ แบบนี้พุทธมณฑลจึงจะมีรายได้ เลี้ยงตัวเองได้ พัฒนาให้เป็นศูนย์กลางได้..”

Leave a Reply