วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พระพรหมวชิราธิบดี นายกสภามหาวิทยาลัย เป็นประธานในการประชุมสภามหาลัยวิทยาลัย โดยมี พระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัย รองอธิการบดี คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมสำหรับสาระสำคัญที่ประชุม เช่นอนุมัติ หลักสูตรและโครงการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตร การบริหารกิจการคณะสงฆ์ (ป.บส.) หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567  วิทยาลัยสงฆ์กำแพงเพชร  อนุมัติระเบียบมหาวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนาอภิธรรมโชติกะวิทยาลัย พ.ศ. 2567อนุมัติ ระเบียบมหาวิทยาลัย ว่าด้วยกองทุนพัฒนาศูนย์อินเดียศึกษา พ.ศ. 2567  และ การอนุมัติ ข้อบังคับมหาวิทยาลัย ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งอำนวยการ ประเภทตำแหน่งปฏิบัติการวิชาชีพและบริหารทั่วไป พ.ศ. 2567 โดยมีสรุปสาระสำคัญจาก ร่าง ได้ดังนี้:

1. วัตถุประสงค์
– เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งอำนวยการในประเภทตำแหน่งปฏิบัติการวิชาชีพและบริหารทั่วไป
– เพื่อให้การบริหารงานบุคคลมีประสิทธิภาพและบรรลุวัตถุประสงค์ของมหาวิทยาลัย

2. โครงสร้างตำแหน่งอำนวยการ แบ่งเป็น 3 ระดับ:
– ระดับสูง: ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 15 ปี
– ระดับกลาง: ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 10 ปี
– ระดับต้น: ต้องมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 7 ปี

3. วาระการดำรงตำแหน่ง
– วาระละ 4 ปี สามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน (รวม 8 ปี)
– กรณีมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ อาจได้รับการแต่งตั้งเพิ่มเติมอีกไม่เกิน 2 วาระ (รวมทั้งหมดไม่เกิน 16 ปี)

4. กระบวนการแต่งตั้ง
– ตำแหน่งระดับสูง: เสนอโดยรองอธิการบดีที่กำกับดูแลงานบุคคล
– ตำแหน่งระดับกลางและต้น: เสนอโดยรองอธิการบดีที่กำกับดูแลส่วนงานนั้นๆ

5. การพ้นจากตำแหน่ง
– เมื่อครบวาระ
– เมื่อมีการโยกย้ายเพื่อประโยชน์ในการบริหารงาน
– กรณีลาออก หรือเหตุอื่นตามที่กำหนด

6. บทเฉพาะกาล
– ผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งใหม่ตามข้อบังคับนี้ แต่ไม่เกิน 1 ปี

ข้อบังคับนี้มีความสำคัญในการสร้างมาตรฐานการบริหารงานบุคคล และช่วยให้การบริหารจัดการตำแหน่งอำนวยการเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น