วันที่ 11 ธ.ค. 67  หลังจากปรากฎเอกสารจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ถึง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการยกเลิกให้บริการห้องรับรองพระภิกษุสามเณร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2567 โดยอ้างว่า มีความจำเป็นที่จะขอยกเลิกให้บริการห้องรับรองพระภิกษุและสามเณร บริเวณชั้น 3 ฝั่งตะวันตก อาคารผู้โดยสารทสถ. เพื่อนำไปใช้ในภารกิจของ ทอท. พร้อมทั้งระบุต่ออีกว่า หากมีพื้นที่ที่เหมาะสม ทอท.จะพิจารณาจัดเป็นห้องรับรองพระภิกษุสามเณรให้ในภานหลังต่อไป..

ซึ่งการยกเลิกห้องรับรองพระภิกษุสามเณรเพื่อประกอบศาสนกิจในคร้ังนี้ ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับพระภิกษุ -สามเณรที่ต้องไปใช้บริการสนามบินหรือเดินทางไปปฎิบัติศาสนกิจ ณ ต่างประเทศเป็นอย่างมาก

ล่าสุดมีการแชร์ภาพพระภิกษุสามเณร ณ สนามบิน นั่งบ้าง นอนบ้าง พิงกำแพงบ้าง หน้าห้องรับรองพระภิกษุ -สามเณร ที่ถูกยกเลิกไป จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างยิ่ง

พระภิกษุรูปหนึ่งระบุว่า เสียความรู้สึกกับพรรคเพื่อไทย ที่คณะสงฆ์ตั้งความหวังไว้ว่าจะมาดูแลกิจการพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ได้ดีเป็นอย่างมาก ตอนนี้ผลงานยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ซ้ำมายกเลิกห้องรับรองพระภิกษุสามเณรภายในสนามบินสุวรรณภูมินี่เอง ยุคพลเอกประยุทธ์ ที่ว่า ไม่ดีแล้ว  คณะสงฆ์ตอนนี้เหมือนหนีเสือปะจรเข้..

ขณะที่ “นักเคลื่อนไหว” ด้านพุทธศาสนาคนหนึ่งกล่าวว่า การได้ห้องรับรองนี้มาไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องต่อสู้กับการท่าอากาศยาน หลายครั้งหลายหน ใช้ทั้งคำอ้อนวอนทั้งคำขู่และไปดูพื้นที่หลายหน การท่าอากาศยานสนใจแต่เรื่องผลประโยชน์และรายได้ แต่ถามถึงห้องละหมาดไม่กล้าแตะ ต่อสู้ผลประโยชน์ของศาสนาพุทธเหนื่อยเพราะศาสนาพุทธไม่มีพาวเวอร์ไม่มีพระผู้ใหญ่สนใจไยดี

“น่าผิดหวังรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงคมนาค ซึ่งกำกับท่าอากาศยานก็เป็นคนของพรรคเพื่อไทย  รวมทั้ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็คนพรรคเพื่อไทย แต่กลับปล่อยให้พระท่านต้องมาลำบากแบบนี้ ภาพพระที่แชร์กันที่สนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากไม่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนแล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อประเทศไทยด้วย..”