ภายหลังมีหลายกระแสออกมาโจมตี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ กรณีพูดทำนองว่าเคยคิดว่าสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็น “เขตปกครองพิเศษ” โดยให้คนพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องมุสลิมได้ปกครองกันเองหรือไม่ ถึงขั้นที่สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.เตรียมหาช่องทางกฎหมายเพื่อยื่นองค์กรองค์กรอิสระตรวจสอบเพื่อเอาผิด เพราะมองว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 1
ขณะที่ตัว พ.ต.อ.ทวี ก็ออกมาชี้แจงตอบโต้ว่า ไม่เคยพูดให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องเป็นเขตปกครองพิเศษ เพียงแต่พูดถึง “มณฑลซินเจียง” ซึ่งเป็น “เขตปกครองพิเศษ” มีชาวอุยกูร์เป็นคนพื้นเมืองและนับถือศาสนาอิสลาม ทั้งยังมีภาษาเป็นของตนเอง จึงมีความคล้ายคลึงกับพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย เท่านั้น
อ่านประกอบ : “เขตปกครองพิเศษ” พ่นพิษ? สว.สบช่องจ่อยื่นสอบ “ทวี” ขัด รธน.มาตรา 1
อ่านประกอบ : “ทวี” ยันไม่ได้พูด “เขตปกครองพิเศษชายแดนใต้” แค่เรียกชื่อสากล “มณฑลซินเจียง”
เรื่องนี้จึงกลายเป็นวิวาทะโต้เถียงกันคนละมุม ต่างฝ่ายต่างก็บอกว่าตนเองถูกต้อง
“ทีมข่าวอิศรา” จึงขอนำเสนอคำพูดแบบละเอียดคำต่อคำของ พ.ต.อ.ทวี ซึ่งกล่าวเรื่องนี้เอาไว้ระหว่างลงพื้นที่ บริเวณสนามกีฬาเมืองโบราณยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อเป็นประธานเปิดงาน โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน Check in Halal @ เมืองโบราณยะรัง เมื่อวันที่ 12 เม.ย.68 และได้มีการกล่าวตอนหนึ่งถึงการเดินทางไปเยือนซินเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้เพื่อพิสูจน์ว่า พ.ต.อ.ทวี พูดว่าอะไรกันแน่ และนี่คือข้อความที่พูดแบบถอดเทป “คำต่อคำ”
“ผมเพิ่งไปซินเจียงมา ซินเจียงเขาใช้เขตปกครองพิเศษ เวลาไปเคยคิดเหมือนกันว่า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเดินไปถึงตรงนั้นหรือไม่ ก็ต้องให้คนในพื้นที่คุยกัน”
“แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ผู้บริหารที่ซินเจียงเขาเป็นมุสลิม คือเขาใช้คน..คนที่จะรู้ปัญหาดีก็คนพื้นที่”
“สิ่งสำคัญเวลาไปวันนั้น ไม่มีเวลาเลย คือเขาจัดเวลาไปแบบ คือไปเยี่ยมบ้านหลังหนึ่ง สองหลังก็ 8 ชั่วโมงแล้ว ไป 2 ชั่วโมงกว่า กลับก็ 2 ชั่วโมงกว่า พอกลับมาก็ตีเครื่องบินกลับมาส่วนกลาง แต่ยังไงก็ต้องไปดูบ้านเมือง”
“สิ่งที่ดูบ้านเมือง เขาบอกว่าเราอยู่ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงในการดู ก็ต้องให้ไปดูการแสดงของคน ก็คือการโชว์ว่าประวัติของเมืองเป็นอย่างไร อย่างเช่น ซินเจียง ประวัติเขาคือเป็นคนในหุบเขา เป็นคนมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร เราก็ฟังภาษาไม่รู้เรื่อง เพราะคนจีน ฟังไม่รู้เรื่อง เขาพูดภาษาถิ่น แล้วต้องให้คนแปล เหมือนบ้านเรา ถ้าคนพูดภาษามลายูก็ต้องมีคนแปล และที่สำคัญก็คือว่า เราดูคนเขามีความสุขมาก เพราะว่าคับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก เพราะเขาได้ปกครองคนของเขาเอง”
“เหมือนกันครับ น่าจะถึงเวลาแล้ว คนจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องเป็นผู้บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างน้อยนายอำเภอก็เป็นมุสลิม แล้ววันนี้น่าจะเป็นยุคของปัตตานี ถ้าเราไม่มีเหตุการณ์ เพราะผู้ว่าฯปัตตานีก็เป็นมลายู แล้วก็เป็นผู้หญิง ที่สำคัญอย่างยิ่งอดีตที่เคยรุ่งเรืองศตวรรษที่ 7 ถึงศตวรรษที่ 13 ก็ 1,000 กว่าปีเลย ที่นี่ กษัตริย์รายาก็เป็นผู้หญิง แล้วก็สร้างความเจริญ คนรู้จักไปทั่ว”
“เรามีสถานศึกษาเยอะ มีมหาวิทยาลัยในปัตตานี มี 2 มหาวิทยาลัย มอ.ปัตตานี (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) กับมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ผมยังคิดเลย รัฐบาลควรจะให้งบ แล้วก็มาจัดแสดงเหมือนเมืองนอก ผมยังถาม ท่านภูมิธรรม (นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม) ว่าที่แสดง (ที่ซินเจียง) มีหอประชุม ศูนย์วัฒนธรรมเรายังสู้ไม่ได้เลย แค่เมืองซินเจียง”
“แล้วเขาก็แสดง เพราะคนซินเจียงแสดงให้เห็นว่า เมื่อเขาอยู่บนพื้นฐานอัตลักษณ์ มีความสุขกับธรรมชาติ เขาก็จะมีความเข้มแข็ง เขาบอกถ้าพูดถึงคนซินเจียงจะมี 3 อย่าง หนึ่งร้องเพลง เพราะเขาต้องออกกำลังกาย เต้นรำและร้องเพลง อีกอันหนึ่งอายุยืน เพราะอยู่กับธรรมชาติ”
นี่คือสิ่งที่ พ.ต.อ.ทวี พูด และสื่อสารออกมา ส่วนจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 1 หรือควรถูกตรวจสอบโดยองค์กรอิสระหรือไม่…
ที่มา สำนักข่าวอิศรา
Leave a Reply