วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 พระราชกิจจาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เข้าร่วมประชุมพระธรรมวินัยนานาชาติในพิธียองซานแจร่วมกับคณะสงฆ์แทโก ประเทศเกาหลี ณ ลานหน้าพระราชวังคยองบกคุง กรุงโซล โดยมีประชาชนชาวเกาหลีร่วมพิธีนับ 10,000 คน
โดยพิธียองซานแจเป็นพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาที่รัฐบาลประเกาหลีใต้ให้ความสำคัญ และสนับสนุนให้คณะสงฆ์นิกายแทโกจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ซึ่งเป็นเสมือนการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลกำลังจะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาของชาวเกาหลีให้กลับมามีความสำคัญในประเทศเกาหลีใต้อีกครั้ง

พระราชกิจจาภรณ์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า ”ในนามพระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย กระผมขอแสดงความขอบคุณในโอกาสที่พระสังฆปรินายกนิกายแทโกแห่งพระพุทธศาสนาเกาหลี นิมนต์ให้มาร่วมในพิธียองซานแจ อันศักดิ์สิทธิสำคัญนี้ และขอแสดงความยินดีต่อการประชุมพระธรรมวินัยนานาชาติ ของคณะสงฆ์แทโก ในครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงความร่วมมือระหว่างพระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายานอย่างใกล้ชิด และเป็นรูปธรรม
เมื่อ พ.ศ. 2507 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร เคยมาที่ประเทศเกาหลี และมีพระเถระผู้ใหญ่ฝ่ายมหายานท่านหนึ่ง กล่าวกับท่านเอาไว้ว่า พระพุทธศาสนาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเถรวาทหรือฝ่ายมหายาน ต่างก็เกิดจากพระพุทธเจ้าพระองค์เดียวกัน มีพระบรมศาสดาพระองค์เดียวกัน เหมือนกิ่งต้นไม้ที่แตกออกจากลำต้นเดียวกัน แต่กิ่งทั้งสองต่างก็ให้ร่มเงาต่อชาวโลก เป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่มวลมนุษยชาติเช่นเดียวกัน

ปีนี้ พ.ศ. 2568 ผ่านมา 61 ปี กระผมเป็นรุ่นลูกศิษย์ก็ได้ตามรอยพระอุปัชฌาย์มาสานความสัมพันธ์ต่ออีกครั้ง โดยมีพระครูใบฎีกาจิรศักดิ์ เกตุเมโธ เจ้าอาวาสวัดพุทธาราม เกาหลีเป็นผู้ประสานงาน นับเป็นประสบการณ์แสนวิเศษที่ได้มาร่วมพิธีอันเก่าแก่ ศักดิ์สิทธิ์สำคัญนี้ ซึ่งปฏิบัติสืบต่อกันมานับพันปี และเป็นพิธีที่องค์กรยูเนสโกให้การรับว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คณะสงฆ์ไทยและคณะสงฆ์เกาหลี จะได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเช่นนี้อีก ในโอกาสต่อไป
อนึ่ง ขณะนี้ ประเทศไทย อยู่ในห้วงเวลาแห่งการถวายความอาลัย แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ประชาชนชาวไทย ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทั้งปวง ต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ สรรพกรณียกิจที่พระองค์บำเพ็ญเพื่อความผาสุกแก่พสกนิกร ตลอดจนความเจริญรุ่งเรือง วัฒนาสถาพรแห่งพระพุทธศาสนา ทั้งฝ่ายเถรวาทและฝ่ายมหายาน ยังปรากฏเป็นสรรพสิริอยู่ในความทรงจำของปวงชนชาวไทย

ขอท่านผู้เข้าร่วมประชุมในมหาสมาคมแห่งนี้ ได้ร่วมกับคณะสงฆ์ไทยและ ประชาชนชาวไทย อธิษฐานใจ ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และเดชานุภาพแห่งพระกุศลผลบุญที่ทรงบำเพ็ญมา ขอสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้มีพระบุญญาธิการ อันถึงพร้อมแล้ว สถิตดำรงอยู่ในทิพยวิมาน ตลอดกาลนาน“


Leave a Reply