ส.ส.เพื่อไทยแถลง! เสนอร่างพรบ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพุทธต่อรัฐสภา

“นิยม”พร้อมส.ส.เพื่อไทยแถลง เสนอร่างพรบ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพุทธต่อรัฐสภา เจ้าคุณประสารหวัง”บิ๊กตู่” ครม และสมาชิกรัฐสภาช่วยพิจารณาและสนับสนุนด้วยกุศลจิต

วันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2563 เวลา 10.30 น. ที่ อาคารรัฐสภา เกียกกาย กรุงเทพฯ นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย และคณะได้ร่วมกันแถลงข่าวในการเสนอร่างพระราชบัญญัติอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. … ต่อรัฐสภาว่า คณะได้นำร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์และส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พ.ศ. …. พร้อมด้วยหลักการและเหตุผล พร้อมทั้งสรุปสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ประกอบกับเอกสารการดำเนินการตามมาตรา 77 วรรคสอง พร้อมแนบรายชื่อผู้รับรองจำนวน 20  คน เสนอต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 18  ธ.ค.2562 โดยขณะนี้รอการบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะสร้างความเข้มแข็งมั่นคงให้แก่พระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นและทำให้พระพุทธศาสนาได้รับการอุปถัมภ์จากรัฐอย่างครอบคลุม อันจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

 พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ในฐานะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆของคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมสภาผู้แทนราษฎรได้ร่วมแถลงข่าวด้วย พร้อมกล่าวว่า ในนามพระสงฆ์ขออนุโมทนานายนิยมและคณะในการเสนอร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ และขออนุโมทนานายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในประธานวิปฝ่ายค้านและคณะที่ให้การสนับสนุนถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีในปีใหม่ 2563 เพราะร่างพระราชบัญญัตินี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพระพุทธศาสนา เพราะจะเป็นเรื่องของการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้มั่นคงและยั่งยืนสืบไป

พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวด้วยว่า พระพุทธศาสนาจะมั่นคง ยืนยาวได้ด้วยเหตุหลักคือ 1.คณะสงฆ์และพุทธบริษัทเข้มแข็ง 2.รัฐให้การอุปถัมภ์ ปกป้องและคุ้มครอง ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาจะเห็นได้ชัดว่าเมื่อพระพุทธศาสนาไปเจริญในประเทศใดๆก็มักจะมองเห็นสาเหตุทั้ง 2 ประการนี้เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนกันอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้

“จึงขออนุโมทนานายนิยมและคณะที่มีกุศลศรัทธาปรารภและช่วยกันทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อหนุนพระพุทธศาสนาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองแห่งศีลธรรมของประเทศ
           อาตมาหวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะช่วยกันพิจารณาด้วยจิตอันเป็นกุศลและตามกรอบระยะเวลาที่ควรจะเป็นหวังว่าสมาชิกรัฐสภาจะเห็นด้วยและให้การสนับสนุนในทุกพรรคการเมือง แน่นอนร่างพรบ.ฉบับนี้ย่อมไม่สมบูรณ์ทั้งหมดแต่อยากให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรับหลักการในวาระแรกและไปช่วยกันแก้ไขแต่งเติมให้สมบูรณ์ในชั้นกรรมาธิการวิสามัญ และในการพิจารณาของสมาชิกรัฐสภาต่อไป” พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว

Leave a Reply