‘แผนที่กรุงธนบุรีจากพม่า’ บทความนี้ปรากฏในเพจเฟซบุ๊กสยามเทศะ โดย มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2562 เนื้อหาสาระน่าติดตามกรุงธนบุรีในหลักฐานพม่า เป็นแผนที่ชนาดใหญ่ที่แสดงชัดเจนถึงเขตตัวเมืองสองฟากแม่น้ำเจ้าพระยา(พม่าเรียกว่ามหานที)และให้ความสำคัญที่ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นวังหลวงมากกว่าฝั่งตะวันออก แผนที่เมืองธนบุรีซึ่ง คุณนิรมล เมธีสุวกุล ได้รับอนุญาตจากนักวิชาการในย่างกุ้ง อาจารย์หม่อง หม่อง ทิน [Prof. Muang Muang Tin] อนุญาตให้ถ่ายภาพแผนที่ชิ้นนี้ที่เขียนลงบนแผ่นกระดาษขนาดใหญ่ราว ๓x๖ ฟุต เขียนด้วยสีฝุ่นสีสันสวยงาม ตัวหนังสือในแผนที่เป็นภาษาพม่า อาจารย์สุเนตร ชุตินธรานนท์ แห่งคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย จึงจัดแปลเป็นภาษาอังกฤษตามที่ปรากฎ เขียนข้อมูลสันนิษฐานไว้อย่างน่าสนใจใน “กรุงธนบุรีในหลักฐานพม่า” ว่า แผนที่แสดงไว้ชัดเจนว่าเขตตัวเมืองครอบคลุมพื้นที่ทั้งสองฟากเจ้าพระยา (คำพม่าเรียกแม่น้ำเจ้าพระยาว่ามหานที) ฝั่งตะวันตกเป็นวังหลวงคงให้ความสำคัญมากกว่าเพราะมีรายละเอียดมากกว่าฝั่งตะวันออก ริมเจ้าพระยาตั้งแต่ปากคลองบางกอกน้อยลงไปถึงปากคลองบางหลวงหรือคลองบางกอกใหญ่ คือเขตเมืองฟากตะวันตกจะเห็นว่ามีกำแพงล้อมเมืองอยู่ทั้งสี่ด้าน มีประตูเข้าทั้งหมด ๒๑ ประตู ตรงมุมด้านใต้ตรงปากคลองบางหลวงซึ่งมีรูปปืนใหญ่น่าจะเป็น ป้อมวิชัยประสิทธิ์ พื้นที่ในกำแพงเมืองจะเห็นว่ามีทางเชื่อมถึงกันหมด โดยมีคลองเชื่อมจากแม่น้ำตัดขวางออกคลองคูเมืองเพียงเส้นเดียว ซึ่งน่าจะเป็นคลองบางหว้าใหญ่ข้างวัดระฆัง ส่วนคลองมอญและคลองนครบาลไม่ปรากฏในแผนที่นี้ จะเห็นว่าแนวคลองและแนวกำแพงวังแบ่งพื้นที่เป็น ๓ ส่วนโดยประมาณ คือ กรอบสี่เหลี่ยมด้านขวาสุดติดกับป้อมปืนคือ เขตพระราชวัง ซึ่งในพงศาวดารระบุว่าถือตามแนวกำแพงเมืองเดิม โดยรวมเอาวัดแจ้งและวัดท้ายตลาดไว้ในเขตวังหลวงด้วย หากยึดข้อมูลนี้กำแพงวังน่าจะกว้างถึงคลองเหนือวัดอรุณฯ เป็นอย่างน้อย ภายในกำแพงวังจะเห็นแนวกำแพงอีกชั้นหนึ่ง ผู้เขียนเน้นให้ดูใหญ่และมิดชิดแน่นหนาเป็นพิเศษ น่าจะเป็นที่ประทับของพระเจ้าตากสินหรือเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งทั้งพระตำหนักและแนวกำแพงวังไม่เหลือร่องรอยให้เห็นแล้วในปัจจุบัน ท่าน้ำริมเจ้าพระยา ตรงประตูซึ่งเชื่อมถึงตำหนักในได้พม่าระบุไว้ว่าเป็น “ท่าขึ้นวัง” ส่วนประตูเข้าวังที่อยู่ถัดมาทางซ้ายมีชื่อว่า “ประตูถือน้ำพระพิพัฒน์” จึงเป็นไปได้ที่รูปอาคารหลังใหญ่ริมกำแพงวังด้านเหนือจะเป็นท้องพระโรงซึ่งพระเจ้าตากสินเสด็จออกว่าราชการ แต่จะเป็นท้องพระโรงหลังเดียวกับที่อยู่ในวังเดิมหรือไม่คงบอกไม่ได้ พื้นที่สี่เหลี่ยมถัดมาซึ่งอยู่ตรงกลางพระนครนั้น มีรูปอาคารเด่นสะดุดตาอยู่หลังหนึ่งแวดล้อมด้วยรูปเรือนเล็กๆ เป็นจำนวนมากบรรยายว่าเป็น “บ้านพระยาจักรี” ซึ่งน่าจะหมายถึงที่ประทับเดิมของรัชกาลที่ ๑ น่าสังเกตว่าในพงศาวดารและในบันทึกเก่าๆ เช่น ในจดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนริทรเทวีนั้น กล่าวถึงบ้านขุนนางผู้ใหญ่ในสมัยพระเจ้าตากสินฯ ว่าอยู่ในเขตกำแพงฟากตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ และมีอย่างน้อยสองท่านซึ่งพำนักอยู่ที่เดิมทั้งสองแผ่นดินคือ “เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์” หรือ “พระยาสุริยอภัย” ในแผ่นดินพระเจ้าตากสินบ้านอยู่ที่ชุมชนบ้านปูน (แถวศิริราช) มาแต่เดิม ต่อมาในรัชกาลที่ ๑ จึงสถาปนาเป็นกรมพระราชวังหลัง ส่วนอีกท่านคือ “เจ้าพระยาธรรมธิกรณ์” ซึ่งเป็นเจ้ากรมวังครั้งกรุงธนบุรี บ้านของท่านอยู่ใกล้ปากคลองมอญบริเวณเดียวกับบ้านพระยาจักรี พื้นที่กรอบซ้ายสุดอยู่ติดคลองบางกอกน้อย น่าจะป็นโรงช้างต้นแน่ ในพระราชพงศาวดารกล่าวถึงช้างทรงของพระเจ้ากรุงธนบุรีว่ามีทั้งหมด ๔ เชือก จึงเป็นเรื่องบังเอิญมากที่รูปช้างในแผนที่นี้ก็มีอยู่ ๔ เชือกเช่นเดียวกัน (อีกเชือกหนึ่งอยู่ฟากตะวันออก) บริเวณปากคลองตรงมุมขวาควรจะเป็นวัดบางว้าใหญ่หรือวัดระฆัง เพราะพม่าเขียนว่า “ท่าขึ้นวัด” ถัดมาทางซ้ายมือน่าจะเป็นฉางเกลือและชุมชนบ้านปูน ตรงคลองคูเมืองด้านตะวันตกซึ่งติดมาให้เห็นเพียงบางส่วนนั้น มีเครื่องหมายชี้ไปทางคลองบางกอกน้อยบอกว่าทางไปสุสานและอู่เก็บเรือ ทำให้พอเห็นเค้าว่าอู่เก็บเรือหลวงนั้นอยู่คลองบางกอกน้อยมาแต่เดิม ส่วนสุสานที่ระบุไว้ น่าจะเป็นสุสานแขกริมคลองฝั่งใต้ซึ่งทางรถไฟได้ผ่านทับไปหมดแล้ว ข้ามฟากมาด้านตะวันออกเขตกำแพงชั้นในระบุว่าเป็น “วังลูกเจ้าเมืองบางกอก” ซึ่งน่าจะหมายถึงพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนอินทรพิทักษ์ ในแผ่นดินพระเจ้าตากสิน ตรงมุมซ้ายในกำแพงเมืองมีรูปเรือนอยู่หลังหนึ่งเขียนว่าเป็น “บ้านหัวหน้าชาวจีน” ในที่นี้น่าจะหมายถึงบ้านพระยาราชาเศรษฐี ผู้ดูแลชาวจีนซึ่งอยู่กันอย่างหนาแน่นตามริมน้ำฟากตะวันออก เรือนแพที่เห็นเรียงเป็นแถวในแม่น้ำคือชุมชนชาวจีน….. เพจ สยามเทศะโดยมูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์ จำนวนผู้ชม : 2,236 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author ข้าราชการมหาดไทยวัยเกษียณ ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำแปลง “โคก หนอง นา ” สร้างสุขได้อย่างยั่งยืน ปลัด มท.เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมชื่นชมพึ่งพาตนเองได้อย่างยอดเยี่ยม อุทัย มณี เม.ย. 19, 2023 วันนี้ 19 เม.ย. 66 เวลา 14.00 น. ที่แปลงโคก หนอง นา กลันทาปันสุข หมู่ที่… ปลัดมหาดไทย ให้โอวาทแก่ครูและนักเรียนทุนฯ ม.ท.ศ. เน้นย้ำ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทำคุณประโยชน์เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ อุทัย มณี ธ.ค. 27, 2022 วันที่ 27 ธ.ค. 65 เวลา 13.30 น. ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร… “ผกก.ป่าตอง”สอบจบป.เอกสันติศึกษา”มจร” เสนอโมเดลไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นสอบสวนเชิงพุทธ อุทัย มณี ม.ค. 27, 2021 เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ.2564 หลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย… อปพส. บุกสภาฯยื่นหนังสือให้ตรวจสอบ พ.ร.บ.ฮัจย์ อุทัย มณี ธ.ค. 18, 2019 วันนี้ที่อาคารรัฐสภา องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพหรือ… “วัด ประชารัฐ สร้างสุข” อำเภอเมืองกาญจนบุรี หนุน “ผู้นำนักเรียนและภาคีเครือข่าย” ขับเคลื่อนงานจิตอาสาร่วมพัฒนาวัด อุทัย มณี พ.ค. 23, 2023 วันที่ 23 พ.ค. 66 วานนี้ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี… “หมอเดว” มอบโล่เจ้าอาวาสวัดสารอด ฐานผู้ร่วมโครงการวิจัยครอบครัวไทยไร้ความรุนแรง อุทัย มณี มี.ค. 30, 2022 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญฺ, ดร. เจ้าอาวาสวัดสารอด… “พระธรรมวชิรโมลี” ข้ามห้วยครองเจ้าอาวาส วัดยานนาวา อุทัย มณี มิ.ย. 25, 2021 วันที่ 21 มิ.ย.64 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้มีหนังสือลงวันที่… พระก็บอกอยู่นะ! โควิดมา “อบายมุขคือทางแห่งหายนะ” อุทัย มณี ม.ค. 12, 2021 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2564 เพจ Phramaha Boonchuay Doojai ได้โพสต์ข้อความว่า “ทางแห่งหายนะ-อบายมุข… หลักสูตรสันติศึกษา “มจร” เตรียมดึงพลังบวร ปั้น WAT Next ยกระดับการพัฒนาวัดตอบโจทย์สังคมเมือง อุทัย มณี ส.ค. 07, 2022 หลักสูตรสันติศึกษา "มจร" เตรียมดึงพลังบวร ปั้น WAT Next ให้เป็น… Related Articles From the same category “พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ” โปรดให้ “ปลัดเก่ง-ดร.วันดี” อัญเชิญผ้าพระกฐินถวายแด่พระสงฆ์จำพรรษา ณ วัดโนนสว่าง จังหวัดอุดรธานี วันที่ 19 ตุลาคม 2567 เวลา 15.30 น. ที่วิหารเฉลิมพระเกียรติ วัดโนนสว่าง… “องค์ทะไล ลามะ” แถลงสงครามล้าสมัยแล้ว! วอนยุติขัดแย้ง “รัสเซีย-ยูเครน” ผ่านการเจรจา วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เฟซบุ๊ก Narong Sangkhawichit พระนักศึกษาไทยที่ประเทศอินเดีย… ประสิทธิ แสงทับ ป.ธ.9 โพสต์เตือน “สมเด็จพระมหาธีราจารย์ -มจร” ใช้ศัทพ์เรียกผู้นำศาสนาคริสต์ว่า “อัครสังฆราช” ไม่ถูกต้อง!! วันที่ 4 มีนาคม 2568 เฟชบุ๊ค ประสิทธิ์ แสงทับ ป.ธ.9 อดีตข้าราชการกรมศิลปากร… “อธิการบดี มจร”แนะนักวิจัย อย่ามุ่งเพียงระเบียบวิจัย ต้องช่วยป้องกันเฟกนิวส์ในสังคมไทยด้วย วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔ พระธรรมวัชรบัณฑิต, ศาสตราจารย์ ดร. อธิการบดีมหาวิทยลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย… อยากเล่า!! เรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นสิ่งที่อยากเล่าจริง ๆ เนื่องจากเห็นว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ไม่เฉพาะต่อประชาชนคนไทยและประเทศไทยเท่านั้น…
Leave a Reply